สั่งปูพรมค้นหา “ปืนไรเฟิล” ยิงช้างป่ากุยบุรี

2018-01-14 15:00:19

สั่งปูพรมค้นหา “ปืนไรเฟิล” ยิงช้างป่ากุยบุรี

Advertisement

ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์สั่งปูพรมค้นหาปืนไรเฟิล ยิงช้างป่ากุยบุรีตายคาอุทยานฯ


เมื่อวันที่ 14 ม.ค 61 พล.ต.ต.พัฒนา เพศยนาวิน ผบก.ภ.จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่าหลังจากมีการผ่าพิสูจน์ซากช้างป่าเพศผู้มีงา อายุ 20 ปี ที่หมู่ 8 บ้านพุบอน ต.หาดขาม อ.กุยบุรี พบหัวกระสุนปืนไรเฟิลชนิดหัวตัด ขนาดความยาว 3 ซม. ฝังในเบ้าตาซ้ายลึก 14 ซม. และหัวกระสุนปืนลูกซองลูกปรายเบอร์ 12 จำนวน 1 เม็ดฝังอยู่ในสะโพกด้านซ้าย ล่าสุดได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานนำหัวกระสุนที่พบในเบ้าตาไปตรวจพิสูจน์ว่ายิงจากปืนชนิดใดคาดว่าจะทราบผลภายใน 3 วัน เนื่องจากหัวกระสุนที่พบในซากช้างสามารถยิงได้จากปืนเอ็ม16 ปืนไรเฟิล และปืนอาก้า เมื่อทราบชัดเจนว่ายิงมาจากปืนชนิดใดก็จะเข้าค้นบ้านเป้าหมายของกลุ่มที่ครอบครองอาวุธดังกล่าวในพื้นที่ นอกจากนั้นจะต้องติดตามเส้นทางการหากินของช้างป่าตัวดังกล่าวว่าที่ผ่านมามีลักษณะดุร้ายหรือมีการกัดกินพืชไร่ของประชาชนได้รับความเสียหายหรือไม่หรือมีคนกลุ่มใดสูญเสียผลประโยชน์จากประเด็นอื่น หรือต้องการฆ่าเอางาแต่ช้างไม่ได้ตายทันที เมื่อทราบชัดเจนจากนั้นจะวางแนวทางเพื่อหาสาเหตุการตาย ขณะที่ช้างป่าอาจถูกยิงมาจากพื้นที่อื่นแต่เพิ่งพบซากหลังจากบาดเจ็บมาหลายวัน


ด้าน นายพัลลภ สิงหเสนี ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่าได้สั่งการให้นายอำเภอกุยบุรีตรวจสอบผู้ครอบครองทะเบียนอาวุธปืนไรเฟิลทุกรายในพื้นที่ พร้อมแจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านหาเบาะแสเพื่อสอบสวนที่มาหาสาเหตุการตายที่แท้จริงทั้งการใช้อาวุธปืนยาวและกรณีการกินสารพิษ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิสูจน์เพื่อหาข้อเท็จจริง ส่วนการแก้ปัญหาระยะสั้นได้แจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องเร่งสร้างการมีส่วนร่วมของชาวบ้านในการเฝ้าระวังปัญหาช้างป่ารวมทั้งการสร้างแหล่งอาหาร แหล่งน้ำ โป่งเทียมอย่างเพียงพอ เพื่อให้ช้างกลับเข้าไปหากินในป่า ส่วนการทำรั้วกั้นช้างยืนยันว่าจะไม่มีการสร้างรั้วความยาว 40 กิโลเมตร ซึ่งใช้งบประมาณจำนวนมากแต่จะพิจารณาสร้างรั้วในจุดที่มีชุมชน พร้อมทำคูกันช้างตามแนวทางของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช




นายพงษ์พันธ์ วิเชียรสมุทร รอง ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะประธานมูลนิธิช้างป่า...บ้านพ่อ และประธานเครือข่ายองค์กรอนุรักษ์สัตว์ป่ากุยบุรี (POWER of Kuiburi)โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวพร้อมประพันธ์ร้อยกรอง ระบุว่า “อนิจจา...ช้างไทย ไม่เคยสร้างความเดือดร้อน ราญรอนมนุษย์คนไหน หากินในป่าพงไพร เหตุใดใจร้ายจาบัลย์ กู่ก้องร่ำร้องมนุษย์ โปรดหยุดเข่นฆ่าอาสัญ สัตว์ป่ารักชีวิตเหมือนกัน โศกศัลย์ตำนานช้างไทย”

ด้าน น.สพ.สาโรช จันทร์ลาด หัวหน้าฝ่ายสุขภาพสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่าเบื้องต้นสาเหตุที่ช้างตายมาจากหัวกระสุนปืนไรเฟิลที่ฝังในเบ้าตา ทำให้มีอาการอักเสบติดเชื้ออย่างรุนแรง แต่ขณะนี้ยังไม่ตัดประเด็นการกินสารพิษเนื่องจากต้องรอผลการพิสูจน์จากห้องปฏิบัติการคณะสัตวแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล 


ขณะที่ นายชาตรี จันทร์วีระชัย นายอำเภอกุยบุรี นายกาญจนพันธ์ คำแหง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี นายศรีสวัสดิ์ บุญมา พร้อมชาวบ้านพุบอน ได้นิมนต์พระสงฆ์ 4 รูปเพื่อการสวดบังสุกุลเพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ช้างป่าบริเวณที่พบซากช้างและช้างป่าที่ล้มตายก่อนหน้านี้อีก 21 ตัว ภายในพื้นที่ป่ากุยบุรี จากนั้นเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้ทำแนวกันไฟเพื่อเผาซากช้างโดยใช้ยางรถยนต์นับร้อยเส้น