รวบแล้วสามีอารมณ์ร้อนยิงภรรยาเสียชีวิต หลังตามไปง้อไม่สำเร็จ อ้างถูกด่าด้วยถ้อยคำรุนแรงจึงบันดาลโทสะ ยอมรับเสพยาบ้าก่อนไปขอคืนดี
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่11 ม.ค. พ.ต.อ.วิทัศน์ บริรักษ์ รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พ.ต.อ.ภาคิน ศิวเมธากุล ผกก.สภ.ชะอำ พ.ต.ท.สมยศ ฉิมพาลี รอง ผกก.สส.สภ.ชะอำ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายสรพงษ์ พูลเพิ่ม อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 หมู่ที่ 12 ต.เขากระปุ อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด .38 มม. จำนวน 1 กระบอก หลังก่อเหตุยิงภรรยาที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และยิงญาติภรรยาได้รับบาดเจ็บที่ขา ก่อนหลบหนีไปเมื่อวันที่ 10 ม.ค. ซึ่งก่อนเข้าควบคุมตัว พ่อของนายสรพงษ์ ได้ติดต่อมายัง สภ.ชะอำ เพื่อนำตัวลูกชาย ที่ก่อเหตุยิงภรรยาเสียชีวิต มามอบตัวในวันนี้ แต่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายสรพงษ์ ก่อนในช่วงเช้ามืด และนำตัวไปสอบสวนที่ สภ.ชะอำ
จากการสอบสวนนายสรพงษ์ ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้ใช้ปืนยิงภรรยา และญาติภรรยาจริง โดยปืนได้ซื้อเก็บไว้นานแล้ว ส่วนสาเหตุที่ยิงเนื่องจากโกรธภรรยาด่าด้วยถ้อยคำที่รุนแรง ระหว่างที่ตนไปหาเพื่อบอกให้ไปหาลูกชายบ้าง แต่ น.ส.ปัทมา ซึ่งได้เลิกกันแล้วแต่ยังไม่ได้หย่าขาด ช่วงที่เข้าไปจับมือภรรยา แต่ภรรยาผลักและด่าด้วยคำที่รุนแรง จึงคว้าปืนลูกโม่ที่พกมายิงใส่ ภรรยาวิ่งหนี ตนจึงยิงไปหมดลูกโม่ที่อยู่ในรังเพลิง ช่วงที่ภรรยาล้มอยู่บนพื้นได้นำลูกปืนใส่ในรังเพลิงอีก 2 ลูก เป็นช่วงที่นายปัญญา อินทรกับจันทร์ อายุ 64 ปี ซึ่งเป็นลุงของภรรยา เดินเข้ามาจึงยิงใส่ไปอีก 2 นัด ก่อนจะหลบหนีออกมาจากบ้านที่ก่อเหตุ คิดจะฆ่าตัวตายตามเพราะรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่ได้ทำลงไปด้วยอารมณ์โกรธ แต่ทางพ่อกลัวจะฆ่าตัวตายตามเพราะยังมีลูกชายอยู่อีก 1 คน จึงขอให้มอบตัวรับโทษตามที่ได้ทำไว้ และได้ติดต่อไปยัง สภ.ชะอำ เพื่อที่จะนำตัวเองเข้ามอบตัวกับตำรวจในวันนี้ แต่ตำรวจได้เดินทางมาที่บ้านก่อน
นายสรพงษ์ เผยต่อว่า ได้อยู่กินกับ น.ส.ปัทมา มาร่วม 15 ปี มีลูกชายด้วยกัน 1 คน ปัจจุบันอายุ 11 ปี เคยทำงานอยู่ที่โรงแรมเดียวกันกับภรรยาใน อ.ชะอำ โดยตนทำหน้าที่พนักงานขับรถยนต์ ยอมรับว่าเคยเสพยาบ้า และถูกจับกุมไปแล้ว 1 ครั้ง ช่วงหลังเลยออกจากงานที่ทำอยู่ ภรรยา ด้ขอเลิกและแยกกันอยู่ โดยภรรยาได้กลับมาอยู่บ้านตัวเอง ส่วนลูกชายอยู่กับตน ทั้งนี้ได้พยายามตามง้อภรรยาให้กลับไปคืนดีและกินอยู่กันเหมือนเดิม แต่ถูกภรรยาปฏิเสธดุด่าตลอด นอกจากนั้นแทบทุกครั้งที่มาง้อภรรยาที่บ้าน มักจะถูกญาติภรรยาทำร้ายร่างกาย การมาง้อครั้งนี้จึงได้นำปืนติดตัวมาด้วย ตั้งใจจะเอามาขู่เพื่อป้องกันตัว แต่ด้วยอารมณ์โกรธจึงบันดาลโทสะยิงภรรยาและญาติของภรรยา ยอมรับว่าช่วงที่มาง้อภรรยาและก่อเหตุได้เสพยาบ้าด้วย รู้สึกเสียใจกลับการกระทำ ตอนนี้สงสารลูก แต่ก็ขอชดใช้ความผิดที่ได้กระทำลงไป
หลังสอบสวนเสร็จ ตำรวจได้นำตัวนายสรพงษ์ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนจะนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและพยายามฆ่าผู้อื่น โดยมีอาวุธและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง และพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต