"คำนูณ"เผย กมธ.ถกร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาตินอกรอบ 4 ก.ค.

2022-07-03 20:55:11

 "คำนูณ"เผย กมธ.ถกร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาตินอกรอบ 4 ก.ค.

Advertisement


"คำนูณ"เผย "พล.ต.อ.ชัชวาลย์" นัด กมธ.หารือนอกรอบ ร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ 4 ก.ค. ปมข้อเสนอ "ปิยะ" 

เมื่อวันที่ 3 ก.ค. นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว. ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ... รัฐสภา เปิดเผยว่า วันที่ 4 ก.ค.นี้ กมธ. ที่มีพล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ส.ว. เป็นรองประธาน กมธ. ทำหน้าที่ประธาน กมธ. นัดประชุม กมธ. เพื่อหารือต่อประเด็นการเสนอแก้ไขมาตรา 169/1 ของร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ... ตามที่ได้เสนอไว้ต่อที่ประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ยอมรับว่ามีประเด็นที่ต้องทำให้ยุติการประชุมก่อนจะพิจารณาทั้งฉบับแล้วเสร็จตามข้อตกลงเนื่องจากการเสนอแก้ไขเนื้อหามาตรดังกล่าว เนื่องจากพล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย ส.ว. ในฐานะผู้ช่วยเลขานุการ กมธ. นั้นยังไม่เป็นข้อยุติของ กมธ. ทั้งนี้เนื้อหาที่เสนอไม่ใช่ประเด็นปัญหา แต่สิ่งที่ถูกโต้แย้งคือวิธีการเสนอ เนื่องจากการเสนอของพล.ต.อ.ปิยะ เท่ากับเป็นการเพิ่มมาตราขึ้นใหม่ แต่ไม่พบการขอสงวนคำแปรญัตติไว้ อีกทั้งข้อเสนอยังไม่ใช่มติของที่ประชุมกมธ.

เมื่อถามว่า ข้อเสนอที่ยังไม่ผ่าน กมธ.และถูกเสนอโดยเร่งด่วนในที่ประชุมมีใบสั่งจากไหนหรือไม่ นายคำนูณ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่ยอมรับว่าข้อเสนอที่นั้นเป็นการรับข้อเสนอจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้ปฏิบัติงาน ทั้งนี้สิ่งที่ที่ประชุมรัฐสภาถกเถียงคือวิธีการเสนอว่าสามารถทำได้หรือไม่อย่างไร โดยมีผู้มองว่าหากจะแก้ไขเนื้อหาต้องถอนร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวออกไปก่อน และเสนอกลับมาใหม่ ทั้งนี้มีผู้ไม่เห็นด้วย เพราะการเสนอกลับมาที่ประชุมรัฐสภาอีกครั้งอาจต้องต่อท้ายร่างกฎหมายหลายฉบับ ดังนั้น กมธ.จึงขอหารือนอกรอบอีกครั้งและวันที่ 5 ก.ค.นี้ จะเสนอทางออกต่อที่ประชุม

ทั้งนี้มาตรา 169/1 กมธ.ได้เพิ่มขึ้นใหม่ทั้งมาตรา เกี่ยวกับการคัดเลือกหรือแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับชั้นสัญญาบัตรเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ภายใน 5 ปีนับแต่วันที่ พ.ร.บ.นี้ใช้บังคับ โดยข้อเสนอ พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย ในฐานะ กมธ. ได้ขอเพิ่มข้อความในมาตรา 169/1 ระบุว่า ในวาระเริ่มแรกภายใน 180 วัน นับตั้งแต่วันที่ พ.ร.บ.นี้ใช้บังคับ การคัดเลือกหรือการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่ง ให้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ใช้บังคับอยู่ ในวันก่อนวันที่ พ.ร.บ.นี้ใช้บังคับ ในกรณีที่ไม่อาจนำหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขมาใช้บังคับได้ตามวรรคหนึ่ง ก็จะดำเนินการประการใดให้เป็นไปตามที่ ก.ตร.กำหนด ซึ่งต้องไม่ขัดหรือแย้งกับ พ.ร.บ.นี้

พล.ต.อ.ปิยะ ระบุว่า  เนื่องจากในวาระเริ่มแรกนี้การย้ายข้ามหน่วย ข้ามภูมิลำเนาจะส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อข้าราชการชั้นผู้น้อย โดยเฉพาะชั้นประทวนและระดับรองสารวัตร ซึ่งมีเงื่อนไขการย้ายคือ ในทุกปีจะมีภาพรวมช่วงเวลาการแต่งตั้งที่จะมีระดับรองสารวัตรไม่น้อยกว่า 400 นาย ชั้นประทวน 3,000 กว่านาย ร้องขอกลับภูมิลำเนา แต่เงื่อนไขใหม่ให้อำนาจผู้บังคับบัญชาว่าจะรับหรือไม่รับก็ได้ แต่ตามกฎหมายเดิมจะเปิดโอกาสให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ตรากตรำครบ 4 ปี จะหมุนเวียนให้กลับภูมิลำเนาได้

พล.ต.อ.ปิยะ ระบุด้วยว่า สาเหตุที่เพิ่มข้อความในมาตราดังกล่าว เนื่องจากผลกระทบจากกรณีที่มีการเอาเนื้อความบางส่วนไปใส่มาตรา 69 ส่งผลกระทบให้เมื่อพิจารณาจำนวนปีจะเชื่อมโยงไปมาตรา 80 และมาตรา 2 โดยมาตรา 80 ระบุว่า ให้เป็นไปเพื่อความเที่ยงธรรมในการแต่งตั้ง ดังนั้น จะทำให้ระยะเวลาในการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นมีผลใช้ทันที ซึ่งจะส่งผลต่อตำรวจที่มีสิทธิเลื่อนตำแหน่งตามกฎหมายเดิมจะถูกตัดสิทธิทันที แบ่งเป็น กลุ่มผู้บังคับการ 72 ราย รองผู้บัญชาการ 49 นาย รวม 121 นาย เกิดเป็นปัญหาการพรากสิทธิ และเนื่องจากระยะเวลาในการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ในรายละเอียดต้องมีการจัดตำรวจเข้าในกลุ่มสายงานต่างๆ โดยมีระยะเวลากำหนด แต่การมีผลบังคับใช้ทันทีจะไม่เปิดโอกาสให้ตำรวจที่ได้รับผลกระทบได้เลือกเส้นทางการดำเนินชีวิตของตัวเอง เพราะระยะเวลาไม่เป็นไปตามเงื่อนไขเดิม