ระทึก!ทะเลคลั่งคลื่นสูง 3 เมตรพัดถล่มปากพนังพังยับ

2017-12-18 16:20:06

ระทึก!ทะเลคลั่งคลื่นสูง 3 เมตรพัดถล่มปากพนังพังยับ

Advertisement

ทะเลคลั่งคลื่นสูง 3 เมตรพัดถล่มปากพนังพังยับ น้ำทะเลเข้าท่วมถนน รถสัญจรไปมาลำบาก



เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนชาวประมง และประชาชนที่อาศัยใกล้ชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ให้เฝ้าระวังความเสียหายจากคลื่นทะเล เนื่องจากทะเลอ่าวไทยได้เกิดคลื่นทะเลสูงกว่า 3 เมตร โดยเฉพาะริมถนนสายปากพนัง – หัวไทร ตั้งแต่ ต.ปากพนังฝั่งตะวันออก บางพระ ขนาบนาค อ.ปากพนัง จนไปถึง ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ถูกคลื่นทะเลซัดเข้าชายฝั่งอย่างบ้าคลั่งทำให้ต้นไม้ กิ่งไม้ ซากสิ่งปฏิกูลต่าง ๆ กระจายเกลื่อนบนถนน และมีน้ำทะเลเข้าท่วมผิวการจราจร ทำให้การสัญจรไปมาเป็นไปด้วยความยากลำบาก



ในขณะที่ถนนบริเวณพื้นที่ต่ำในพื้นที่ 3-4 ตำบลดังกล่าว ถูกน้ำทะเลหนุนเข้าท่วมถนนจนรถเล็กไม่สามารถผ่านไปได้ บ้านเรือนประชาชนที่ปลูกอาศัยใกล้ชายฝั่งทะเลก็ถูกน้ำทะเลเข้าท่วมบ้านสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ ชาวบ้านต้องเร่งขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงกันจ้าละหวั่น โดยมีแนวโน้มว่าระดับน้ำทะเลจะเพิ่มสูงขึ้นและส่งผลกระทบในวงกว้างมากขึ้น ทางด้านเรือประมง ต่างเร่งอพยพโดยนำเรือประมงขึ้นคานห่างจากชายฝั่งประมาณ 500 เมตร และนำเชือกมาผูกกับหลักเสาเพื่อป้องกันน้ำพัดพาออกไปกลางทะเล ขณะเดียวกันทางชมรมคนลุ่มน้ำปากพนังพึ่งพาตนเอง นำโดยนายสมเกียรติ ทิศนุ่น ประธานชมรม ฯ ได้นำคณะออกสำรวจเก็บข้อมูลผลกระทบและความเสียหายที่เกิดขึ้น พร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนตลอดแนวชายทะเลอย่างต่อเนื่องแล้ว




โดยจากการตรวจสอบพบว่าตลอดแนวชายฝั่งที่มีการก่อสร้างแนวกั้นคลื่นซึ่งในส่วนดำเนินการก่อก่อสร้างแล้วเสร็จก่อนที่รัฐบาลจะอนุมัติงบประมาณ 2,000 ล้านให้กรมเจ้าท่าและกรมโยธาธิการและผังเมืองมาก่อสร้างแนวคันกั้นคลื่นเพิ่มเติมในส่วนที่เหลือซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้พบว่าในจุดดังกล่าวสามารถแก้ปัญหาบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้เป็นอย่างดี แต่ในส่วนที่ยังไม่ได้ก่อสร้างและอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างถูกคลื่นพัดถล่มอย่างหนัก ตลอดแนวชายฝั่งพังเสียหายยับเยิน


อย่างไรก็ตามในส่วนของแนวคันกั้นคลื่นของกรมทางหลวงที่ก่อสร้างซับซ้อนกับของกรมโยธาธิการและกรมเจ้าท่า ไม่สามารถป้องกันคลื่นที่พัดถล่มอย่างหนักได้ โดยแนวคันดังกล่าวซึ่งดำเนินการก่อสร้างโดยใช้ก้อนหินมากองเป็นแนวริมถนนนอกจากป้องกันแก้ปัญหาไม่ได้แล้วยังสร้างปัญหาเพิ่มขึ้นเนื่องจากคลื่นยักษ์พัดถล่มจนแนวหินได้รับความเสียหายกระจายเกลื่อนบนถนนส่งผลให้การสัญจรไปมาเป็นไปด้วยความยากลำบาก ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ของแขวงการทางนครศรีธรรมราช และทางหลวงชนบทนครศรีธรรมราช รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ เข้าตรวจสอบและให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบแล้ว พร้อมกับพยายามกู้ซากสิ่งปฏิกูลที่ถูกซัดจากทะเลขึ้นมากองบนถนนเป็นจำนวนมาก จนสามารถเปิดเส้นทางการจราจรให้ผู้ใช้รถใช้ถนนได้แต่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ.