แถลงผลสอบ “น้องเมย”ไม่มีคนทำร้าย ตกบันได 8 ขั้นก่อนเสียชีวิต(คลิป)

2017-12-15 16:50:16

แถลงผลสอบ “น้องเมย”ไม่มีคนทำร้าย ตกบันได 8 ขั้นก่อนเสียชีวิต(คลิป)

Advertisement

ประธานคณะกรรมสอบสวนกรณี“น้องเมย”เสียชีวิตแถลงชัด ไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดสั่งลงโทษหรือทำร้ายอันอาจเป็นเหตุให้ “น้องเมย” เสียชีวิต ชี้อาการฟกช้ำตามร่างกายเกิดจากตกบันได 8 ขั้น ส่วนซี่โครงหักเกิดจากการทำซีพีอาร์ช่วยชีวิต เผยผลตรวจเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ บางส่วนมีขนาดผิดปกติ ทำให้หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 15 ธ.ค. ที่สโมสรกองบัญชาการกองทัพไทย ถนนแจ้งวัฒนะ พล.อ.อ.ชวรัตน์ มารุ่งเรือง รองเสนาธิการทหาร ในฐานะประธานคณะกรรมสอบสวนกรณีนักเรียนเตรียมทหาร (นตท.)ภัคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ “น้องเมย” เสียชีวิต เมื่อวันที่ 17 ต.ค.2560 ณ โรงพยาบาล รร.นายร้อยพระจุลจอมเกล้า ได้แถลงผลการสอบข้อเท็จจริงการเสียชีวิตของน้องเมยว่า คณะกรรมการได้สอบถามผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สรุปว่า เชื่อได้ว่าวันที่ 17 ต.ค.ทั้งวันไม่มีผู้ใดลงโทษ นตท.ภัคพงศ์ จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ส่วนการฟกช้ำตามร่างกาย จากการสอบผู้เกี่ยวข้องที่อาจเกี่ยวกับการบาดเจ็บและการฟกช้ำได้ความว่าในวันที่ 10 ต.ค.2560 เวลาประมาณ 15.51 น. นตท.ภัคพงศ์ เสร็จจากการเรียนพละศึกษาที่ชั้น 2 อาคารกองพละศึกษา ภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า นตท.ภัคพงศ์ วิ่งผ่านลงไปบันไดเพียงลำพังหลังจากเลิกเรียนเพื่อกลับไปที่กองพัน แต่ได้ลื่นเสียหลักจากพื้นอาคารชั้น 2 ออกมาชานพักบันได ซึ่งมีบันไดจำนวน 8 ขั้น ความสูงประมาณ 1.5 เมตร เพื่อนนักเรียนที่ตามมาได้ยินเสียงจึงเข้าช่วยเหลือ

พล.อ.อ.ชวรัตน์ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันได้มีครูพละ 2 ท่านที่อยู่ด้านล่างได้เดินขึ้นมาดู พบว่า นตท.ภัคพงศ์ นอนตะแคงซ้ายมือกุมหน้าอก เพื่อนและครูพละร่วมให้การช่วยเหลือโดยการตรวจการบาดเจ็บบริเวณศีรษะและลำตัว และได้สอบถามอาการ นตท.ภัคพงศ์ ซึ่งได้รับคำตอบว่ามีอาการจุกที่บริเวณหน้าอก ครูพละและเพื่อนนักเรียนจึงได้ใช้รถส่วนตัวพาไปที่กองแพทย์เพื่อตรวจรักษา แพทย์ตรวจรักษาภายนอกไม่พบบาดแผลและได้นำส่ง รพ. รร.นายร้อยพระจุลจอมเกล้าเพื่อตรวจหาอาการบาดเจ็บโดยละเอียดอีกครั้ง ผลการตรวจสอบไม่พบบาดแผลและไม่พบการบาดเจ็บภายใน จึงให้กลับมาพักที่กองแพทย์ และในวันที่ 12 ต.ค. นตท.ภัคพงศ์ กลับไปพักที่บ้าน ได้ทราบว่า ผู้ปกครองได้พาไปตรวจร่างกายซ้ำที่ รพ.เอกชน ผลการตรวจไม่มีสิ่งผิดปกติและได้กลับเข้า รร.เตรียมทหารในเย็นวันที่ 15 ต.ค.

“เหตุการณ์นี้ข้อมูลที่ได้จากผู้เกี่ยวข้องและวงจรปิด นตท.ภัคพงศ์ เสียหลัก ตกบันไดด้วยตัวเอง สาเหตุอาจเร่งรีบลงบันไดเพื่อกลับกองพัน ทำให้มีอาการบาดเจ็บ แพทย์ตรวจไม่พบบาดแผลบริเวณร่างกายหรือศีรษะ มีการตรวจเอ็กซเรย์ทั้ง รพ.รร.นายร้อยพระจุลจอมเกล้า และรพ.เอกชนโดยผู้ปกครอง ผลการตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติ จากพยานและหลักฐานที่คณะกรรมการได้ โดยเฉพาะจากคำให้การของเพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์ ภาพวงจรปิด คณะกรรมการจึงสรุปได้ว่า การเสียชีวิตของ นตท.ภัคพงศ์ ไม่มีผู้หนึ่งผู้ใด สั่งลงโทษหรือทำร้ายอันอาจเป็นเหตุให้ นตท.ภัคพงศ์ เสียชีวิต และจากผลการตรวจของสถาบันพยาธิวิทยา ศูนย์อำนวยการแพทย์พระมงกุฎเกล้า สรุปผลในภาพรวมได้ว่าไม่พบร่องรอยที่ชัดเจนว่าถูกทำร้าย ส่วนกรณีซี่โครงด้านขวาซี่ที่4หักนั้น แพทย์ไม่ตัดประเด็นการปั้มหัวใจที่ต้องใช้แรงกดคลึงกระแทกและใช้เวลานานถึง 4 ชั่วโมง ประกอบกับได้พบว่าเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจบางส่วนมีขนาดผิดปกติ และพบหย่อมการตายของเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจเล็กน้อย ซึ่งไม่ค่อยตรวจพบบ่อยนักในคนอายุ 18 ปี ทางแพทย์จึงสรุปสาเหตุการเสียชีวิตของนตท.ภคพงศ์ว่าเกิดจากหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน อย่างไรก็ตามการแถลงข่าวครั้งนี้ไม่ได้เป็นการตอบโต้ เพราะครอบครัว นตท.ภคพงศ์ รร.เตรียมทหาร และกองบัญชาการกองทัพไทย ถือเป็นผู้สูญเสียด้วยกันทั้งสิ้น ทั้งนี้ได้เชิญครอบครัวของ นตท.ภคพงศ์มารับฟังผลการสอบสวนในวันที่ 18 ธ.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพไทยด้วย” พล.อ.อ.ชวรัตน์  กล่าว