พล.ท. มนัส 1ในผู้ต้องหาคดีระเบิดที่ จ.ฉะเชิงเทรา เข้ามอบตัว แสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังถูกออกหมายจับ ด้านรอง ผบ.ตร.ไม่ค้านประกัน ตั้งวงเงิน 2 แสนบาท
เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เข้าร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่กองบังคับการตำรวจปราบปราม เพื่อตรวจสำนวนคดี พบอาวุธสงครามจำนวนมากในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 5 รายประกอบด้วย นายจักรภพ เพ็ญแข นายมนัส หรือ พล.ท.มนัส เปาริก อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 3 นายจักรินทร์ หรือเสธไก่ เรืองศักดิ์วิชิต นายชัยวัฒน์ ผลโพธิ์ หรือ เปี๊ยก กาละเม และ นายสมเจตน์ หรือ สน คงวัฒนะ ในฐานความผิดร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง โดยผิดกฎหมาย และความผิดฐานอั้งยี่
พล.ต.อ. ศรีวราห์ ระบุว่า คดีดังกล่าวเชื่อมโยงกับคดีพบอาวุธสงคราม และเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในปี 2557 และปี 2560 รวม 18 คดี เช่น เหตุระเบิด เอ็ม79 ที่คนร้ายยิงใส่สำนักงาน ป.ป.ช สนามบินน้ำเมื่อปี 2557 และคดีตรวจค้นอาวุธสงครามในบริษัทไทยแม็กซ์กรุ๊ป ซึ่งเป็นของนายวุฒิพงศ์ กชธรรมมคุณ หรือโกตี๋ ในพื้นที่ จ.ปทุมธานีเมื่อเดือน มี.ค. 2560 ขณะที่ในช่วงเย็นที่ผ่านมา พล.ท.มนัส พร้อมทนายความได้เดินทาง เข้ามอบตัวกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ โดยรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับ จากนั้นจึงมีการคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนกองปราบปราม และไม่มีการคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหาเดินทางเข้ามอบตัวเอง โดยตีราคาหลักประกันไว้ 2 แสนบาท
ส่วนการติดตามตัวผู้ต้องหาที่อยู่ต่างประเทศ ต้องดำเนินการผ่านกระทรวงการต่างประเทศก่อน จากนั้นเป็นหน้าที่ของอัยการในการติดตามตัว ส่วนผู้ต้องหาที่ยังไม่มามอบตัว ได้จัดชุดสืบสวนออกติดตามแล้ว ยืนยันว่าหากมีหลักฐานพาดพิงใครก็จะดำเนินคดีทั้งหมด สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวตั้งข้อสังเกตว่าการพบอาวุธสงครามในครั้งนี้ จะเป็นการขยายเวลาปลดล็อกการเมืองของรัฐบาลหรือไม่นั้น พล.ต.อ.ศรีวราห์ ระบุว่า ไม่สามารถตอบได้ แต่ตำรวจมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของประชาชนเพียงเท่านั้น
