เปิดใจหนุ่มไทยสอนมวยสื่อนอกอคติเสนอข่าวพระราชพิธีฯ(คลิป)

2017-10-31 19:35:53

เปิดใจหนุ่มไทยสอนมวยสื่อนอกอคติเสนอข่าวพระราชพิธีฯ(คลิป)

Advertisement

จากกรณีสื่อต่างชาติรายงาน การก่อสร้างพระเมรุมาศ พร้อมทั้งอาคารต่างๆ โดยรอบประมาณ 20 หลัง ในพระราชพิธีถวายพระเพลิง พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พร้อมระบุ ค่าก่อสร้างประมาณ 90 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3,150 ล้านบาท จนเป็นเหตุให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Manatase Annawat” ตัดสินใจเข้าไปอธิบาย ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พสกนิกรชาวไทยมีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9  

ทีมข่าว “นิว18” ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Manatase Annawat คือ "คุณมนาเทศ อันนวัฒน์” ระบุถึงสาเหตุที่ตัดสินใจอธิบายในประเด็นดังกล่าวเพราะในฐานะพสกนิกรชาวไทยคนหนึ่งที่ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ได้เห็นพระราชจริยวัตร พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ตลอดระยะที่ทรงครองสิริราชสมบัติ พระองค์ทรงงานหนักยาวนาน 70 ปี พัฒนาโครงการกว่า 4,000 โครงการ เพื่อให้พสกนิกรของพระองค์ท่านได้อยู่อย่างผาสุก สร้างอาชีพ พัฒนาแหล่งทำกิน รวมไปถึงแก้ปัญหาต่างๆ ในประเทศ ทั้งฝนแล้ง อุทกภัย



การร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ที่สมพระเกียรติในครั้งนี้ ถือการตอบแทนในหลวงรัชกาลที่ 9 อย่างสมพระเกียรติ มีจำนวนเงินที่คนไทยได้ร่วมถวายเงินเพื่อบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงินสูงถึีงกว่า 800 กว่าล้านบาท หรือประมาณ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 

การที่สื่อต่างชาติออกมาตีแผ่ข่าวเรื่องของงบประมาณการจัดสร้างพระเมรุมาศรวมถึงการใช้งบประมาณในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพนั้น เป็นเพียงความไม่เข้าใจถึงวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีไทย ที่สืบทอดกันมากว่า 800 ปี ไม่เคยสัมผัสและรับรู้ถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย ทำให้ไม่เข้าใจถึงความรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาที่คุณที่คนไทยทั้งประเทศมีต่อพระองค์ท่าน




คุณมนาเทศ บอกด้วยว่า การใช้เงินจำนวนมากเพื่อทุ่มเทในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในครั้งนี้ สามารถมองในด้านดีได้ว่า คนไทยสะท้อนประเพณีไทยโบราณ สะท้อนอัตลักษณ์ และวัฒนธรรมที่สวยงามของประเทศไทยให้โลกได้รับรู้ โดยพร้อมใจกันเข้าร่วมกราบถวายบังคมพระบรมศพกว่า 12 ล้านคนภายใน 1 ปี 



สื่อต่างชาติอีกหลายสำนักที่กล่าวขานถึงการจัดงานอย่างสมพระเกียรติในครั้งนี้ สามารถสะท้อนให้เห็นถึงพระบารมี และพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร กษัตริย์ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นราชาแห่งราชัน "King of Kings"




สำหรับผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Manatase Annawatได้เขียนอธิบายเป็นภาษาอังกฤษส่งถึง ซีอีโอ และ บรรณาธิการบริหารของสื่อต่างประเทศ ระบุว่า เรียนบรรณาธิการ โปรดอ่านจดหมายที่ผมเขียนอย่างยาว และด้วยความให้เกียรติอย่างที่สุด เป็นประวัติศาสตร์ของชาติของเรา พระราชพิธีนี้ เป็นสิ่งที่แสดงถึงที่สุดของความคิด และมรดกที่เรามีมากว่าหลายร้อยปี ในโอกาสที่เป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตของคนไทย ที่ได้ทำให้คนไทยและคนทั่วโลก ได้เห็นถึงความพร้อมเพรียงในการเคารพสมาชิกราชวงศ์เพื่อที่จะน้อมดวงใจของคนไทยเพื่อจัดพระราชพิธีที่ยิ่งใหญ่ และสมพระเกียรติ เพื่อตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่ทรงงานมาตลอด 70 ปี ที่ครองราชย์ 

คุณควรได้เห็นภาพของคนไทยที่มาต่อคิวหลายชั่วโมงเพื่อเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ เป็นการอำลาพระองค์เป็นครั้งสุดท้าย โดยที่ประชาชนไทย ได้เดินทางไปกราบถวายบังคมพระบรมศพกว่า 12 ล้านคน ภายใน 1 ปี นับตั้งแต่พระองค์เสด็จสวรรคต คุณคงไม่รู้ว่าตลอดถนนหนทางที่ผมได้เดินใน กทม.ช่วงพระราชพิธี มีประชาชน จิตอาสา ออกมาช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และนี่คือ สิ่งที่ ประเมินค่าไม่ได้


ก่อนที่จะเขียนอะไร กรุณาโปรดทำวิจัย และพยายามทำความเข้าใจเกี่ยวประเทศต่างๆ ที่คุณจะเขียน พระองค์ท่านนำพาซึ่งสันติสุขมาเป็นเวลา 70 ปีที่ครองราชย์ เพื่อแก้ปัญหาความยากจน ความแห้งแล้ง สร้างโอกาส สร้างอาชีพให้กับผู้คน ด้วยโครงการในพระราชดำริกว่า 4,000 โครงการ

ดังนั้น เรื่องนี้จึงไม่เกี่ยวข้องกับจำนวนงบประมาณที่ใช้ในการจัดพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ เพราะมากกว่านี้เราก็ให้ได้ แม้กระทั่งชีวิตของพวกเรา เพียงเพื่อหวังที่จะให้พระองค์ท่านอยู่กับเราต่อไป 





กลับมาที่บทความของคุณ เป็นการวิจารณ์ว่าใช้เงินอย่างไร้สติ ผมมีความเชื่อว่า มันเต็มไปด้วยการตัดสิน อคติ ไม่เคารพ และข้อมูลที่ผิดพลาด อย่างแรก สิ่งที่คุณเขียนว่า มีการแต่งกายที่แตกต่างของทหารนั้น ข้อนี้ได้เแสดงถึงความรู้อันน้อยนิด เพราะทหารของประเทศไทยมีหลายเหล่าทัพ อย่างที่ 2 ที่คุณเขียนว่า คนมาหลักพัน ความจริงแล้วคุณต้องใช้คำว่า มาหลักล้าน เพราะพระราชพิธีได้จัดขึ้นทั่วประเทศ


สิ่งที่แย่ที่สุดก็คือ สื่อระบุว่า บุคคลที่ประคองพระบรมโกศเป็นพระชั้นผู้ใหญ่ ผมตกใจ และรู้สึกขำขันเป็นที่สุด นั่นคือ ผอ.รพ.ศิริราชปิยมหาราชการุณย์ การที่จะเป็นสื่อมวลชนที่ดีขึ้นต้องทำการบ้านและทำการศึกษา โดยเฉพาะเรื่องละเอียดเปราะบาง

สิ่งที่คุณได้เขียนและได้ทำลงไปไม่ได้แสดงถึงการไม่เคารพคนไทยเท่านั้น แต่เป็นการดูถูกตัวเอง ดูถูกหน้าที่การงานตัวเองและดูถูกบริษัทสื่อสังกัดของตัวเอง การมีมือกับปากกาแต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะมีสิทธิเหนือคนอื่น คุณใช้สื่อในทางที่ผิด ผมรู้สึกสมเพช ผมจึงข้อเรียกร้องให้คนเขียนทำการขอโทษในสิ่งที่ได้กระทำลงไป





สุดท้ายนี้ผมขอย้ำว่า เขียนจดหมายนี้ด้วยการปราศจากซึ่งความโกรธ เพราะกษัตริย์ของผม ทรงสอนให้ผมอดทน รู้จักให้อภัย เปิดหัวใจให้กว้าง สำหรับคนคิดต่าง และคนที่มีความรู้ และปัญญาในระดับที่ต่างกัน


สิ่งสำคัญที่สุดกษัตริย์ของผมสอนว่าต้องอยู่กันด้วยความรักและสามัคคี ผมจึงขอร้องให้คุณเปิดดวงตา เปิดดวงใจ ให้ได้สัมผัสถึงความรักที่คนไทยมีต่อพระองค์ท่าน ซึ่งราชวงศ์ และคนจากทั่วโลกได้กล่าวขานเป็นราชาแห่งราชัน "King of Kings"