ผลเอ็กซิตโพล หลังปิดหีบเลือกตั้งทั่วไปในญี่ปุ่น พบว่า พรรคร่วมรัฐบาลชนะเลือกตั้ง ครองเสียงข้างมาก 2 ใน 3
พรรคร่วมรัฐบาลญี่ปุ่น ซึ่งนำโดยพรรคเสรีประชาธิปไตย หรือแอลดีพี ของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ มีแนวโน้มว่าจะได้รับชัยชนะครั้งสำคัญในการเลือกตั้งทั่วไปในวันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคม โดยผลสำรวจความคิดเห็นหน้าคูหาเลือกตั้ง หรือเอ็กซิตโพล พบว่า พรรคร่วมรัฐบาลได้ 311 ที่นั่ง ครองเสียงข้างมากที่แข็งแกร่ง 2 ใน 3
เอ็กซิตโพลของ เอ็นเอชเค คาดว่า พรรคร่วมรัฐบาลของนายอาเบะ จะชนะถล่มทลาย ได้ที่นั่งส.ส. 253-300 ที่นั่ง จาก 465 ที่นั่งในรัฐสภา ส่วนพรรคโคเมโต ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคแอลดีพี คาดว่าจะได้ 27-36 ที่นั่ง ส่วนสื่อท้องถิ่นอื่น ๆ รายงานว่า พรรคร่วมจะได้เกิน 300 ที่นั่ง อย่างไรก็ตาม เอ็กซิตโพล ไม่ใช่ผลเลือกตั้งสุดท้าย ผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการคาดว่าทราบในเช้าวันจันทร์
ทั้งนี้ การครองเสียงข้างมาก ถือเป็นสิ่งสำคัญต่อความปรารถนาอันแรงกล้าของนายอาเบะ ที่จะทบทวนแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับรักสันติหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องจาก มาตรา 9 ของรัฐธรรมนูญ ที่ร่างขึ้นโดยสหรัฐ ซึ่งยึดครองญี่ปุ่นในปี พ.ศ.2490 กำหนดห้ามญี่ปุ่นเข้าร่วมสงครามอย่างสิ้นเชิง ญี่ปุ่นมีกองทัพเพื่อจุดมุ่งหมายป้องกันตนเองเท่านั้น แต่นายอาเบะ แสดงท่าทีอย่างชัดเจนมานานแล้วว่า เขาต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังเผชิญหน้ากับความเป็นศัตรูจากเกาหลีเหนือเพิ่มมากขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ โดยเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ 2 ลูกข้ามญี่ปุ่นเมื่อเดือนที่แล้ว
ชัยชนะในการเลือกตั้งเพิ่มโอกาสของนายอาเบะในการอยู่ในตำแหน่งวาระ 3 ปีเป็นสมัยที่ 3 ในฐานะหัวหน้าพรรคแอลดีพี ซึ่งพรรคจะลงมติเลือกหัวหน้าพรรคในเดือนกันยายนปีหน้า และจะทำให้เขามีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรีที่อยู่ในตำแหน่งยาวนานที่สุดของญี่ปุ่น โดยเขาได้รับเลือกในปี 2555
ญี่ปุ่นจัดการเลือกตั้งวันอาทิตย์ ขณะที่ไต้ฝุ่น “ลัง” เคลื่อนตัวพัดถล่มหลายพื้นที่ของประเทศ ซึ่งนายอาเบะ จัดการเลือกตั้งก่อนกำหนด เนื่องจากคะแนนนิยมเพิ่มขึ้น และเกิดความขัดแย้งระหว่างพรรคฝ่ายค้าน