กลางดึกวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา ฝนตกลงมาอย่างหนัก ส่งผลทำให้น้ำท่วมขัง กทม.รอการระบายถึง 55 จุด ประชาชนเดือดร้อนกันถ้วนหน้า แต่สิ่งที่ชาว กทม.เห็นกันจนชินตา คือ ปริมาณขยะที่โผล่หลังน้ำลดจำนวนมหาศาล เจ้าหน้าที่ กทม.ต้องช่วยกันเก็บกวาดออกไม่ให้อุดทางระบายน้ำ
นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯ กทม. ให้สัมภาษณ์ “นิว18”ว่า สาเหตุของน้ำท่วมในครั้งนี้เพราะปริมาณฝนมากกว่าปกติ คือ 214.5 มม. ทำให้ระบายน้ำไม่ทัน แต่สิ่งที่เป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำอีกอย่าง คือ “ขยะ” จำนวนมาก
ปัญหาขยะ ทาง กทม.ก็พยายามรณรงค์ทำความเข้าใจกับประชาชนให้ทิ้งขยะเป็นที่เป็นทาง มิฉะนั้นจะเกิดผลกระทบต่อการระบายน้ำ ซึ่งเท่าที่ดูจากสายตา ปริมาณขยะก็เหมือนเดิม ไม่ได้ลดน้อยลง ทาง กทม.ก็ต้องให้เจ้าหน้าที่ช่วยกันเก็บตรงหน้าตะแกรงท่อระบายน้ำ
อยากขอความร่วมมือประชาชน ว่า ปัญหาขยะที่ติดหน้าตะแกรง หรือตามลำน้ำ แม่น้ำคูคลอง จะส่งผลกระทบทำให้ไม่สามารถระบายน้ำได้เร็ว จึงขอความร่วมทือ อย่าทิ้งขยะลงคลอง หรือที่สาธารณะ เพราะถ้ามีขยะอุดตันตะแกรง จะทำให้การระบายทำได้ไม่สม่ำเสมอ อย่างวันนี้ต้องหยุดเครื่องก่อน เพื่อเก็บขยะหน้าตะแกรงออกให้หมด เพราะถ้าไม่หยุดเครื่อง ขยะหลุดเข้าไปอาจทำให้เครื่องพังได้ อย่างน้ำท่วมตรงจุดดินแดง ต้องใช้เจ้าหน้าที่ไม่ต่ำกว่า 50 คนเก็บขยะ และต้องหยุดเครื่องก่อน
เมื่อถามว่า จะมีการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ทิ้งขยะอย่างจริงจังหรือไม่ รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า มีการบังคับใช้กฎหมายอยู่แล้ว หากใครพบเห็นการทิ้งขยะในที่สาธารณะ สามารถแจ้งต่อสำนักเทศกิจ หรือสำนักงานเขตดำเนินการได้ อยากฝากประชาชนว่า อย่าทิ้งขยะตามใจ ทิ้งไม่เป็นที่เป็นทาง เพราะจะเกิดปัญหาในอนาคต และกระทบกับพวกเราเอง
