เสียงจากหัวใจครอบครัว “ส.ต.ธเนตร”

2017-09-15 19:10:23

เสียงจากหัวใจครอบครัว “ส.ต.ธเนตร”

Advertisement

กรณีคนร้ายลอบวางระเบิดและจุดชนวนระเบิดหมายสังหารเจ้าหน้าที่ขณะเข้าเก็บกู้วัตถุระเบิดที่ อ.ยะหา จ.ยะลา ส่งผลให้มีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บจำนวนมาก ในจำนวนนี้เสียชีวิต 2 นาย หนึ่งในนั้น คือ ส.ต.ธเนตร พุทโธ หรือ “ต้น” เจ้าหน้าที่ทหารพราน

ความสูญเสียในครั้งนี้นับว่าใหญ่หลวงนัก สำหรับครอบครัว “พุทโธ” เพราะมีลูกชายเพียงคนเดียว และเป็นเสาหลักของครอบครัว ตอนนี้จึงเหลือแต่ลูกสาวคนเดียวเท่านั้น

นายพีรภัทร พุทโท หรือ “พ่อเคน” อายุ 54 ปี บิดาของ ส.ต.ธเนตร ให้สัมภาษณ์ “นิว18”ว่า พอรู้ข่าวลูกเสียชีวิตผมช็อก น็อกไปเลย ร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะไหล แต่ใจหนึ่งก็คิดว่าเขาไปดีแล้ว ลูกผมไปเป็นเทวดาแล้ว ผมคงไม่ไปอาฆาตแค้นอะไรคนที่ทำลูกผม คิดว่าคนที่ทำร้ายลูกผมเขาคงได้รับผลกรรมเอง ภูมิใจในตัวลูกมากเพราะเขาเสียชีวิตในหน้าที่และเสียชีวิตอย่างสมศักดิ์ศรี




“เขาเป็นลูกชายคนเดียวของผม ก่อนเสียชีวิตเขาตั้งใจจะมาสร้างบ้านให้พ่อ เขาเป็นเด็กดีมาก ช่วยเหลือสังคมมาตลอด หลายปีก่อนเขาแอบไปสมัครทหารเกณฑ์ บอกว่า ต้นจะไปใต้นะ ผมก็บอกเขาว่าพ่อไม่ให้ลูกไปนะ เขาบอกผมว่า ถ้าต้นอยู่กับพ่อ ต้นก็เกเรแข่งรถจักรยานยนต์อาจจะตายบนถนน แต่ถ้าไปเป็นทหารตายก็มีศักดิ์ศรี ตอนนั้นผมโกรธไม่เข้าบ้าน 3 วัน พอเปิดโทรศัพท์อีกทีลูกไปอยู่ใต้แล้ว ผมเห็นชีวิตเขามีแต่ช่วยคนอื่น ช่วยหมาจรจัด ตาบอด ขาหัก ช่วยแมว เขาเคยพูดกับผมว่า พ่อมีรถตู้ ถ้าเขาจะกลับบ้านเอารถตู้มาบรรทุกหมาของผมได้ไหม ผมก็บอกเขาไปว่า ไม่ว่าลูกจะอยู่ไหน พ่อก็จะไปรับ เดินทางกี่วันพ่อก็จะขับรถไปรับ เขายังบอกว่าต้นเลิกบุหรี่แล้วนะ ขอให้ผมเลิกเหล้าได้ไหม และบอกจะกลับมาสร้างบ้านให้พ่อ เพิ่งคุยกันเมื่อสิบกว่าวันก่อน ไม่คิดเลยว่าเขาจะจากเราไป”พ่อเคน กล่าว

“พ่อเคน” กล่าวด้วยเสียงเศร้าว่า ลูกผมทำดีที่สุดแล้ว เขาทำบุญมาแค่นี้ ภูมิใจลูกมีหน้ามีตา พอคนรู้ว่าเขาเสียชีวิต คนที่อยู่แถวบ้านมาช่วยกันหมด เกินความคาดหมาย ทุกคนรักลูกผม ทุกคนมาพูดว่าลูกผมสุดยอด เดินไปตลาดก็ดีใจ ภูมิใจในตัวเขามาก


ด้าน นางศรีอัมพร บุญเพชร หรือ “แม่เยาว์” อายุ 48 ปี แม่ของ ส.ต.ธเนตร กล่าวกับ “นิว18” ว่า เสียใจมาก พอได้รับโทรศัพท์คิดอย่างเดียวว่าลูกคงเสียชีวิต มันเจ็บปวดที่สุดในชีวิต เพราะเรามีลูกชายคนเดียว ก่อนหน้าที่ลูกจะไปอยู่ใต้ ไม่ใช่แม่ไม่ห้าม แต่ใจเขารัก เราก็ตามใจเขา คิดว่ามันคงจะไม่เกิดกับลูกเราหรอก ใจเราก็อยากให้เหตุการณ์ทางโน้นสงบ ทำไมคนไทยด่วยกันไม่รักกัน ทำไม่ไม่อยู่กันอย่างมีความสุข ทำให้คนบริสุทธิ์เดือดร้อนทำไม 

“คนที่ทำร้ายลูกเราถ้าเขาสูญเสียเหมือนเราบ้างจะรู้สึกอย่างไร จิตใจเขาไม่ใช่มนุษย์ อยากให้นึกถึงหัวอกคนที่สูญเสีย ลูกที่เรารักมาก ลูกเราเป็นคนดี ทำเพื่อคนอื่นมาตลอด ”นางศรีอัมพร กล่าว

นางศรีอัมพร กล่าวต่อว่า  2-3 วันก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เขาโทรมาขอตังค์ไปซื้ออาหารให้หมาและแมวที่เลี้ยงไว้ บอกว่ามันจะตายกันหมดแล้วแม่ เฉพาะเงินที่เขาได้รับมันไม่พอจะไปช่วยเหลือ ตัวเขาเรียนอยู่ด้วย ค่าใช้จ่ายเยอะ เขาจะคิดถึงคนอื่นเสมอ ไม่เคยบ่น ไม่เคยนินทาใคร เขายังบอกว่าต่อไปจะไม่ให้พ่อแม่ลำบาก เขาจะกู้เงินมาสร้างบ้านให้พ่อ 

ขณะที่ น.ส.ธิดารัตน์ พุทโธ หรือ “น้องหญิง” อายุ 20 ปี น้องสาวคนเดียวของ ส.ต.ธเนตร กล่าวกับ "นิว18"ว่า  พอรู้ข่าวก็ตกใจ ทำอะไรไม่ถูก พยายามตั้งสติเรามีกันสองพี่น้อง พี่ต้นไปเป็นทหารพรานหลายปีไม่ค่อยได้กลับบ้าน แต่เราก็คุยกันบ่อย เขามักจะบอกว่าพี่เหนื่อย เราก็ได้แต่ให้กำลังใจ




“ตอนไปอยู่ที่นั่นก็เคยถามเขาว่า พี่ต้นไม่เอาพระติดตัวไปด้วยล่ะ เขาบอกว่าถ้าจะตายวันไหนก็ตาย เขาอยากไป บอกให้ให้กลับบ้านก็ไม่ยอม เขาบอกไปที่นั่นก็ช่วยคนเหมือนกัน ตอนอยู่ที่นี่เขาก็ทำงานที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พ่อแม่บอกให้กลับแต่เขาก็ไม่ยอมกลับ ตอนนี้หนูตั้งท้องอยู่ แต่ยังไม่รู้เพศลูก ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้เป็นผู้ชายจะได้เป็นตัวแทนพี่เขา”น้องหญิง กล่าว