“พล.ต.อ.วัชรพล” เมินพันธมิตรฯยื่นถอนถอน หลังมีมติไม่ยื่นอุทธรณ์ 3 จำเลย “สมชาย-บิ๊กจิ๋ว-พัชรวาท” คดีสลายการชุมนุมปี 2551
เมื่อวันที่ 30 ส.ค. พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณี ป.ป.ช. มีมติอุทธรณ์ผลคำพิพากษาคดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯปี 2551 เฉพาะ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น. (จำเลยที่ 4) ว่า มติดังกล่าวพิจารณาจากพยานหลักฐาน และคำพิพากษากลาง คำวินิจฉัยส่วนตัวของผู้พิพากษาขององค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างละเอียด จึงอุทธรณ์จำเลยที่ 4 คนเดียว หากอุทธรณ์จำเลยที่ 1-3 คือ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. เห็นว่า ยังห่างไกลประเด็นที่ ป.ป.ช. จะอุทธรณ์ การที่จะอุทธรณ์อะไร ต้องคิดว่า อุทธรณ์แล้วจะประสบความสำเร็จหรือไม่ด้วย และสิ่งที่เจ้าหน้าที่เสนอมา ไม่ได้บอกให้อุทธรณ์จำเลยทุกคน บอกแต่เพียงว่า ประเด็นที่จะอุทธรณ์มีอะไรบ้างเท่านั้น รวมถึงคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในมติทั้งหมดด้วย ทั้งนี้ในวันที่ 31 ส.ค.จะไปยื่นอุทธรณ์ต่อที่ประชุมศาลฎีกา เพื่อไม่ให้สุ่มเสี่ยงต่อกรอบเวลาตามรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 195
เมื่อถามว่า กลุ่มพันธมิตรฯมองว่า เป็นมติสีเทา อุ้มจำเลยบางคน พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า มุมมองตามกฎหมายเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล แล้วแต่ว่าใครจะมอง อาจแตกต่างทางกฎหมายกันได้ หากใครเป็นนักกฎหมายให้ไปดูคำวินิจฉัยส่วนตัวของผู้พิพากษาแต่ละคนจะเข้าใจได้ แต่บางคนที่ไม่เข้าใจก็จะไม่เข้าใจอยู่อย่างนั้น ต่อข้อถามว่า หลายคนมองว่าเป็นมติที่ช่วยเหลือ พล.ต.อ.พัชรวาท หรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ไม่ใช่ ป.ป.ช. ดำเนินการทุกอย่างตามพยานหลักฐาน การจะมองว่าช่วยเหลือใครหรือไม่ เป็นมุมมองของแต่ละคน แต่ยืนยันว่า พิจารณาทุกอย่างตามหลักกฎหมาย และพยานหลักฐาน
ต่อข้อถามว่า กลุ่มพันธมิตรฯจะยื่นเรื่องประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้ส่งประธานศาลฎีกาถอดถอนคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชุดนี้ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ป.ป.ช. พร้อมปฏิบัติตามกฎหมาย หากเห็นว่าเรื่องนี้เข้าเงื่อนไข สามารถทำได้ ไม่มีปัญหา ไม่กังวลที่จะถูกยื่นถอดถอน เพราะเป็นส่วนหนึ่งของหน้าที่ ทำตามขั้นตอนของกฎหมาย ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมายได้ มั่นใจว่ามติที่ออกมาไม่กระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน