"อนันตพร"เดินหน้าประชารัฐด้านพลังงาน

2017-08-21 22:25:41

"อนันตพร"เดินหน้าประชารัฐด้านพลังงาน

Advertisement

รมว.พลังงานเยือนโคราชตรวจความก้าวหน้าโครงการแก้ปัญหาขยะล้นเมืองพลังงานทดแทน พลังงานสะอาดเพื่อพัฒนาเมือง"ย่าโม"อย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 21 ส.ค. พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน เดินทางไปยัง จ.นครราชสีมา เพื่อเข้าร่วมประชุม ครม.สัญจร ระหว่างวันที่ 21 -22 ส.ค. โดยได้เข้าเยี่ยมชมและรับทราบความคืบหน้าโครงการศูนย์กำจัดขยะแบบครบวงจร ที่เทศบาลเมืองสีคิ้ว อ.สีคิ้ว และเดินทางไปเยี่ยมชมกระบวนการผลิตเอทานอล บริษัท เคไอ เอทานอล จำกัดที่ อ.พิมาย รวมทั้งดูความสำเร็จจากโครงการระบบสูบน้ำแสงอาทิตย์ เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งของชุมชน บ้านหนองพฤกษ์ อ.จักราช ซึ่งถือเป็นต้นแบบโครงการประชารัฐด้านพลังงาน

พล.อ.อนันตพร กล่าวว่า การเยี่ยมชมโครงการที่จังหวัดนครราชสีมาครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสดีในการต่อยอดโครงการประชารัฐด้านพลังงาน โดยกระทรวงพลังงาน ได้สนับสนุนโครงการนำร่องที่สำคัญ ในพื้นที่ ซึ่งวันนี้ได้เข้ารับทราบข้อมูลและความคืบหน้า ได้แก่ โครงการนำร่องการจัดการขยะมูลฝอยชุมชนแบบครบวงจร (แบบกระจายศูนย์) โดยมีการก่อสร้างโรงงานจัดการขยะ เพื่อผลิตเป็นเชื้อเพลิง (Refuse Derived Fuel : RDF) และปุ๋ยอินทรีย์ จำนวน 4 แห่ง ตั้งอยู่ที่ เทศบาลเมืองสีคิ้ว เทศบาลตำบลด่านขุนทด เทศบาลเมืองปัก และเทศบาลตำบลแชะ ปัจจุบันทั้ง 4 แห่งได้ดำเนินการแล้วเสร็จ และเริ่มทดลองใช้งานแล้ว โดยมีขยะเข้าสู่โรงงานทั้ง 4 แห่ง รวม 140 ตันต่อวัน ผลิตเชื้อเพลิงได้วันละ 50 ตัน เพื่อบริหารจัดการปัญหาขยะทั้ง จ.นครราชสีมา 36 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีปริมาณขยะมากกว่า 1,885 ตันต่อวัน




รมว.พลังงาน กล่าวต่อว่า เพื่อต่อยอดการผลิตเชื้อเพลิง RDF ดังกล่าว จึงได้มีการก่อสร้างศูนย์สาธิตการผลิตพลังงานจากของเสียและขยะชุมชน ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และจะมีโรงไฟฟ้าขนาด 1 เมกะวัตต์ ภายในศูนย์สาธิตฯ อยู่ระหว่างก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ และอยู่ระหว่างทดสอบระบบ ซึ่งจะได้ใช้เชื้อเพลิง RDF จากโรงงานจัดการขยะทั้ง 4 แห่งดังกล่าว สำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายให้แก่มหาวิทยาลัย ปัจจุบันเชื้อเพลิง RDF ที่ผลิตได้ 50 ตันต่อวัน ยังสามารถจำหน่ายให้เป็นเชื้อเพลิงในโรงงานปูนซิเมนต์ ทีพีไอ และสยามซีเมนต์ ในราคาตันละ 1,000 บาท
นอกจากนี้ ยังได้เข้าเยี่ยมชมและติดตามความคืบหน้าของโครงการใช้ระบบสูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งของชุมชน กรณีศึกษาบ้านหนองพฤกษ์ อ.จักราช ซึ่งเป็นความร่วมมือรูปแบบประชารัฐ ระหว่าง สำนักงานพลังงาน จ.นครราชสีมา สมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน สาขานครราชสีมา และชาวบ้านชุมชนบ้านหนองพฤกษ์ โดยเป็นโครงการที่ใช้ระบบสูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ สูบน้ำบาดาลขึ้นมาจากใต้ดินเพื่อใช้ในระบบประปาของหมู่บ้าน การสูบน้ำได้ปริมาณน้ำ 28.64 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ทดแทนการใช้กระแสไฟฟ้าซึ่งเป็นต้นทุนราคาสูงให้ลดลง



จากข้อมูลพบว่า โครงการได้เริ่มติดตั้งระบบตั้งแต่เดือน ม.ค.2553 จนถึงเดือน พ.ค. 2559 ที่ผ่านมา ช่วยให้ชุมชนประหยัดค่าไฟรวมทั้งสิ้น 351,261 บาท ลดการใช้ไฟฟ้าลงได้ 87,815 หน่วย ชาวบ้านหนองพฤกษ์ สามารถประหยัดค่าน้ำได้ 491,412 บาท ซึ่งเป็นผลมาจากการลดค่าน้ำประปาจากหน่วยละ 5 บาท เหลือเพียงหน่วยละ 2 บาท จากการกำหนดของโครงการซึ่งประโยชน์โดยรวมที่ได้รับ ชาวบ้านหนองพฤกษ์ได้แก้ปัญหาภัยแล้งได้อย่างยั่งยืน มีน้ำเพียงพออุปโภคบริโภค ลดต้นทุนด้านพลังงาน ได้ใช้น้ำราคาถูกเพาะปลูกพืชสร้างรายได้ที่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต