เผยจัดซื้อขีปนาวุธตั้งแต่ปี 2557

2017-08-12 10:20:42

เผยจัดซื้อขีปนาวุธตั้งแต่ปี 2557

Advertisement

“บิ๊กป้อม”ยันไม่มีการอนุมัติจัดซื้อขีปนาวุธจากสหรัฐฯ  ด้าน ผบ.ทร.เผยซื้อตั้งแต่ปี 2557 เพื่อเสริมศักยภาพเรือฟริเกตท่าจีน 

เมื่อวันที่ 12 ส.ค. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมกล่าวถึงกรณีมีข่าวว่าประเทศไทยเตรียมซื้อขีปนาวุธฮาร์พูน บล็อค ทูว์ รุ่น RGM-84L มูลค่า 24.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (828 ล้านบาท) จากสหรัฐอเมริกา จำนวน 5 ลูก ว่า ยังไม่มีการอนุมัติจัดซื้ออาวุธนำวิถีฮาร์พูน จากสหรัฐฯ แต่อย่างใด ทั้งนี้อาวุธนำวิถีฮาร์พูนของเดิมมีใช้งานอยู่แล้ว

จากการสอบถาม พล.ร.อ.จุมพล ลุมพิกานนท์ โฆษกกองทัพเรือระบุว่ากองทัพเรือมีสัญญาสั่งซื้อขีปนาวุธดังกล่าวจริงตั้งแต่ปี 2557 เพื่อนำมาติดตั้งในเรือฟริเกต (เรือหลวงท่าจีน) ซึ่งอยู่ระหว่างการต่อเรือที่ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นเรือชุดที่ 3 ที่มีการติดตั้งชุดขีปนาวุธดังกล่าว โดยขีปนาวุธฮาร์พูนที่จะติดตั้งในชุดที่ 3 นั้น มีขีดความสามารถที่สูงกว่าทุกรุ่นที่ผ่านมา เพื่อเสริมศักยภาพของเรือฟริเกตที่ต้องมีความสามารถในการรบทั้ง 3 มิติ คือทางบก ทางอากาศ และใต้น้ำ




ส่วนที่มีการแจ้งมายังประเทศไทยนั้นก็เพราะว่าเป็นการประกอบเรือตามวงรอบ เมื่อประกอบตัวเรือเสร็จและต้องติดตั้งอาวุธ จึงต้องมีการแจ้งมาบังประเทศไทย และสภาฯของสหรัฐฯ ต้องมีการอนุมัติจึงจะสามารถซื้อขายกันได้

อาวุธปล่อยนำวิถี ฮาร์พูน เป็นอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้น และอากาศสู่พื้น โจมตีเรือรบผิวน้ำในระยะขอบฟ้าทุกสภาพอากาศ พัฒนาและผลิตโดยบริษัท แมคดอนเนลล์ดักลาส (ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของโบอิง) ใช้เรดาร์ Active Homing นำทางเข้าหาเป้าหมาย โดยจะบินเรี่ยผิวน้ำในระดับต่ำเพื่อหลบหลีกการถูกตรวจจับจากเรดาร์ข้าศึก สามารถยิงได้ทั้งจากเรือผิวน้ำ เรือดำน้ำ และ อากาศยาน



ปัจจุบัน HARPOON มีใช้อยู่ในกองทัพเรือของไทย มีอยู่ด้วยกัน 2 รุ่น คือ BLOCK 1 C และ BLOCK 1 G เป็นแบบที่ได้รับการพัฒนามาจาก MC. DONNELL DOUGLAS ASTRONAUTICS–CO ประเทศสหรัฐอเมริกา และได้นำมาใช้ในกองทัพเรือตั้งแต่ปี พ.ศ.2527 โดยชุดที่ 1 ได้ติดตั้งในเรือหลวงรัตนโกสินทร์และเรือหลวงสุโขทัย ส่วนชุดที่ 2 ติดตั้งในเรือหลวงนเรศวรและเรือหลวงตากสิน