7 วิธีเพิ่มพลังสมอง รับยุคดิจิทัล

2017-08-07 06:30:15

7 วิธีเพิ่มพลังสมอง รับยุคดิจิทัล

Advertisement

เพราะในยุคสมัยใหม่ เทคโนโลยีกลายเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการดำเนินชีวิตประจำวันของเรา จนบางครั้งเป็นเรื่องยากที่จะใช้ชีวิตโดยไม่มีสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ ขณะที่ผู้คนพึ่งพาเทคโนโลยีกันอย่างมากจนมันส่งผลต่อไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต การทำงานการพูดคุยสื่อสาร และการปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ตลอดจนส่งผลให้วิธีการทำงานของสมองเปลี่ยนแปลงไปด้วย

ภาพ Fabio Berti / Shutterstock.com


มีรายงานวิจัยหลายฉบับชี้ให้เห็นว่าคนยุคหลังการเปลี่ยนสหัสวรรษมายังยุคปัจจุบันนั้น จำนวนมากที่โตมาในยุคดิจิทัลที่ไม่มีความจำเป็นต้องจำเบอร์โทรศัพท์ หรือวันเกิดของคนใกล้ชิดอีก ทั้งยังใช้เวลาหลายชั่วโมงต่อวันอยู่กับสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และแท็บเล็ต ก็ได้ส่งผลกระทบเชิงลบต่อสมอง เริ่มแสดงอาการที่เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาเรื่องความจำระยะสั้นและโรคเกี่ยวกับความจำอื่นๆ ตลอดจนเสียสมาธิง่ายและมีอาการหลงลืม

จากการสำรวจพนักงานออฟฟิศที่มีอายุระหว่าง 25-45 ปี ในไต้หวันเมื่อปีที่ผ่านมา พบว่า ร้อยละ 61 ของคนทำงานกลุ่มนี้ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นาน 6-10 ชั่วโมงต่อวัน และร้อยละ 78 รู้สึกว่า การใช้อุปกรณ์เหล่านี้นานเกินไปมีผลกระทบต่อความจำของพวกเขา รวมทั้งประมาณร้อยละ 60 ยอมรับว่าถึงขั้นหลงลืมข้าวของส่วนตัวเลยทีเดียว

สำหรับประเทศไทย รายงานล่าสุดของ Google Consumer Barometer เผยว่า ร้อยละ 53 ของคนไทยใช้อินเทอร์เน็ตทุกวัน ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 89 นับจากปี 2556 และร้อยละ70 ของคนไทยใช้สมาร์ทโฟน เพิ่มขึ้นร้อยละ 126 นับจากเมื่อ 3 ปีที่แล้วเช่นกัน

อย่างไรก็ดี เราสามารถป้องกันปัญหาเรื่องสมรรถภาพด้านความจำที่เสื่อมถอยได้ด้วย 7 วิธีต่อไปนี้


ภาพ eggeegg / Shutterstock.com



1) ฝึกฝนสมองและทบทวนความจำ
การเล่นเกมลับสมองอย่าง เกมปริศนาอักษรไขว้ หรือ ซูโดกุ จะช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองให้แอ๊คทีฟอยู่เสมอ

2) การเรียนรู้ภาษาใหม่ๆ
นอกจากการเพิ่มโอกาสและยกระดับการทำงานแล้ว การเรียนรู้ภาษาใหม่ๆ สามารถช่วยเสริมสร้างสมองได้ดีมากๆ


ภาพ elwynn / Shutterstock.com




3) บริหารจัดการและลดความเครียด
คนที่สามารถบริหารและลดความเครียดได้ดีจะมีความเสี่ยงของการสูญเสียความจำน้อยกว่าคนที่เอาแต่เครียดอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันหลายเท่าตัว

4) รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพสมอง
การรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยโภชนาการสำคัญๆ อย่างถั่วต่างๆ ผักและผลไม้ เมล็ดถั่ว น้ำมันมะกอก ธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสี และปลา ช่วยชะลอการเสื่อมถอยของความสามารถในการรับรู้ (Cognitive Decline) ได้ดีมาก กล่าวคือสามารถช่วยให้สมองแจ่มใสอ่อนเยาว์ลงไปได้อีกถึง 7.5 ปีเลยทีเดียว


ภาพ interstid / Shutterstock.com

5) การพูดคุยสื่อสารแบบพบเจอหน้ากัน


สามารถเสริมสมรรถภาพด้านสมองอย่างง่ายๆ ด้วยการออกจากการแชตผ่านหน้าจอแล้วหันมาพูดคุยกับคนที่อยู่ตรงหน้าจะช่วยฝึกเรื่องการสบตาคู่สนทนาและกิริยาท่าทางในการสนทนาโดยไม่ต้องใช้คำพูดไปด้วยในตัว

6) ออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน
การออกกำลังกายเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยให้เซลล์สมองกระฉับกระเฉงตื่นตัวอยู่เสมอ

7) นอนหลับให้เพียงพอ
หากคุณภาพการนอนหลับพักผ่อนอยู่ในระดับที่ดี จะส่งผลให้คุณภาพชีวิตและสมองดีตามไปด้วย




เมื่อสามารถปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ให้กระฉับกระเฉงและมีสุขภาพดีกันตั้งแต่วันนี้ด้วย 7 วิธีที่ได้กล่าวมา รับรองได้เลยว่าสมองของเราจะแจ่มใสแข็งแรงคู่ตัวเราไปอีกนานแสนนาน

เรียบเรียงจากข้อมูลโดยศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารเฮอร์บาไลฟ์