ป.ป.ช. ยุติการสอบสวนปมนาฬิกาหรูของ “บิ๊กป้อม” ชี้ไม่มีมูลเพียงพอ เนื่องจากนาฬิกายืมเพื่อนมา
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 27 ธ.ค. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มีการประชุมเพื่อพิจารณา กรณีการถือครองนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มีกรรมการ ป.ป.ช.เข้าร่วมประชุม 8 คน โดย พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. ขอถอนตัว
ต่อมาเวลา 15.30 น. นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. แถลงว่า กรณีที่ปรากฏเป็นข่าวว่า พล.อ.ประวิตร เข้ามารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2557 แต่ไม่แสดงทรัพย์สินทั้งนาฬิกาหรู และแหวนเพชร ตามที่มีผู้ร้องเรียนนั้น ผลการตรวจสอบปรากฎว่า ป.ป.ช.ได้ให้ พล.อ.ประวิตรชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวจำนวน 4 ครั้ง ซึ่งพล.อ.ประวิตรได้ชี้แจงว่านาฬิกาทั้งหมด 22 เรือนยืมจากนายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทและได้คืนไปหมดแล้ว ส่วนแหวนมีทั้งเป็นมรดกของบิดาและมารดามอบให้ จากการสอบปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง และขอเอกสารหลักฐานจากผู้แทนจำหน่ายนาฬิกาหรูในประเทศไทยและต่างประเทศปรากฏว่า นายปัฐวาท เป็นนักธุรกิจที่มีฐานะทางการเงินและมีทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก ชอบสะสมนาฬิการาคาแพง ซึ่ง ป.ป.ช.ไปตรวจสอบที่บ้านพบว่ามีการเก็บรักษานาฬิกาแพงอยู่ในบ้านจำนวนมากกว่าที่ร้องเรียน และจากคำให้การของพยานบอกว่า นายปัฐวาทเป็นคนมีฐานะดีชอบช่วยเหลือสนับสนุนด้านการเงินให้กลุ่มเพื่อนที่เคยศึกษาที่ รร.เซนต์คาเบรียล และได้ให้กลุ่มเพื่อนที่โรงเรียนยืมนาฬิการาคาแพงไปสวมใส่ ซึ่งพล.อ.ประวิตรก็เป็นหนึ่งในเพื่อนร่วมห้องเดียวกับนายปัฐวาทที่ให้ยืมนาฬิกาดังกล่าว
เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวต่อว่า จากการพิจารณาภาพของนาฬิกา 25 เรือนที่ปรากฏเป็นข่าวพบว่า มีภาพซ้ำกัน 3 คู่ จึงมีนาฬิกาที่ต้องตรวจสอบเพียง 22 เรือน พบว่าอยู่ในบ้านของนายปัฐวาทจำนวน 20 เรือน และพบใบรับประกันนาฬิกาอีก 1 เรือน แต่ไม่พบตัวเรือนรวมเป็น 21 เรือน โดย 21 เรือนดังกล่าวพบหลักฐานว่า นายปัฐวาทซื้อจากผู้จำหน่ายในต่างประเทศจำนวน 1 เรือน ซื้อต่อจากผู้อื่นจำนวน 2 เรือน ส่วนที่เหลือไม่พบหลักฐานการซื้อ และกรมศุลกากรก็ไม่สามารถตรวจสอบยืนยันการนำเข้านาฬิกาจากต่างประเทศได้ เพราะผู้นำเข้าบางรายไม่สำแดงรายละเอียดของนาฬิกาขณะที่บางประเทศปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล
“คณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงเห็นว่า กรณีแหวนเพชรที่ พล.อ.ประวิตรสวมใส่ จำนวน 12 วง ไม่จำเป็นต้องยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. เพราะได้รับมาจากบิดามารดา จึงไม่มีมูลความผิด ส่วนประเด็นนาฬิกาหรู คณะกรรมการป.ป.ช. ลงมติ 5 ต่อ 3 เสียงว่า ไม่มีมูลเพียงพอ เนื่องจากเป็นการยืมมาจากเพื่อน จึงยุติการสอบสวน และไม่ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนต่อ โดยจะส่งให้กรมศุลกากรพิจารณาตามอำนาจหน้าที่ ส่วนกระเเสวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมก็เป็นเรื่องของสังคม เพราะป.ป.ช.พิจารณาตามพยานหลักฐาน”เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าว