เปิดบันทึกจับกุมคณะปลัดอำเภอยึดขา “หมีขอ”

2018-10-08 17:00:34

เปิดบันทึกจับกุมคณะปลัดอำเภอยึดขา “หมีขอ”

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบันทึกการจับกุม/ตรวจยึด เขียนที่ทำการอุทยานแห่งชาติไทรโยค ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี วันที่ 7 ต.ค.2561  ระบุว่า บันทึกฉบับนี้ทำขึ้นไว้เป็นหลักฐานเพื่อแสดงว่า วันที่ 7 ต.ค.2561 เวลาประมาณ 11.30 น. คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ภายใต้การอำนวยการของ นายพนัชกร โพธิบัณฑิต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค และหน่วยปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ เนื่องจากสืบทราบว่ามีกลุ่มบุคคลจำนวนหนึ่ง พร้อมอาวุธเข้าไปล่าสัตว์ป่าภายในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค ขณะคณะพนักงานเจ้าหน้าที่ฯเดินทางเข้าพื้นที่ถึงบริเวณพิกัด UTM_WGS ๑๙๘๔ ZONE ๔๗ P๐๔๗๙๔๘๕E ๑๕๗๔๔๒๒N ป่าเขาพลู หมู่ที่ ๘ ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ภายในป่าสงวนแห่งชาติป่าวังใหญ่ และป่าแม่น้ำน้อย ห่างจากแนวเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค 1.289 กิโลเมตร



คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ฯได้ตรวจพบกลุ่มรถกระบะ จำนวน 6 คัน คันที่ 1 หมายเลขทะเบียน บล 6111 กาญจนบุรี ยี่ห้อ Nissan สีเขียว ผู้ขับรถชื่อ ว่าที่ ร.ต.สุนทร มาเจริญรุ่งเรือง, คันที่ 2 หมายเลขทะเบียน กง 9960 นครปฐม ยี่ห้อ Mitsubishi สีดำเทา ผู้ขับรถชื่อนายทัศดนัย ขอกระโชก ,คันที่ 3 หมายเลขทะเบียน กค 9704 กาญจนบุรี ยี่ห้อ Toyota สีดำ ผู้ขับรถชื่อนายถาวร เซี่ยงหลิว, คันที่ 4 หมายเลขทะเบียน กค 4974 กาญจนบุรี ยี่ห้อ Caribian สีขาว ผู้ขับรถชื่อนายฉัตรชัย เกาะลอย,คันที่ 5หมายเลขทะเบียน 2ฒง 3555 กรุงเทพมหานคร ยี่ห้อ Toyota Tiger สีขาว ผู้ขับรถชื่อนายอนุสรณ์ เรือนงาม ,คันที่ 6 หมายเลขทะเบียน กง 1173 ราชบุรี ยี่ห้อ Mitsubishi สีเขียวเทา ผู้ขับรถชื่อนายประสาน เต็มธนัน ขับสวนทางลงมา จึงแสดงตัวเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ขอเข้าดำเนินการตรวจค้นภายในรถกระบะทั้ง ๖ คัน โดยแจ้งให้บุคคลที่อยู่ภายในรถทั้งหมดลงจากรถและแสดงบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 11 คน ดังนี้



1) น.ส.ศรีวิจิตร ดิษฐ์แช่ม อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ที่ 7 ต.กลอนโด อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี




2) นายทัศดนัย ขอกระโชก อายุ 32 ปีอยู่บ้านเลขที่ 135/2 หมู่ที่ 7 ต.กลอนโด อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี

3) นายฉัตรชัย เกาะลอย อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61/2 หมู่ที่ 1 ต.ด่านมะขามเตี้ย อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี



4) นายจิรชัย ตันติวัฒนสิทธิ์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/1 หมู่ที่ 1 ต.ด่านมะขามเตี้ย อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี

5) ว่าที่ ร.ต.สุนทร มาเจริญรุ่งเรือง อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 378 หมู่ที่ 1 ต.ด่านมะขามเตี้ย อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี

6) นายสกานต์ แก่งหลวง อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/2 หมู่ที่ 3 ต.จรเข้เผือก อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี



7) นายอนุสรณ์ เรือนงาม อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 161/2 หมู่ที่ 3 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

8) นายประสาน เต็มธนัน อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/1 หมู่ที่ 2 ต.คุ้งน้ำวน อ.เมือง จ.ราชบุรี

9) นางอรุณ แสงใส อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 170/1 หมู่ที่ 4 ต.หนองไผ่ อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี

10) นายถาวร เซี่ยงหลิว อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68/3 หมู่ที่ 1 ต.ด่านมะขามเตี้ย อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี



11) นายวัชรชัย สมีรักษ์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 300 หมู่ที่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี



คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ฯจึงทำการตรวจค้นรถ 1 ถึง 4 คันแรกไม่พบสิ่งของและอุปกรณ์การกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ และดำเนินการตรวจค้นรถยนต์คันที่ 5 พบ อาวุธปืนยาวไรเฟิล ติดกล้องเล็งและกระบอกเก็บเสียง พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง วางไว้บริเวณข้างเบาะคนขับ และตรวจพบอาวุธปืนพก ขนาด 9 มิลลิเมตร พร้อมเครื่องกระสุน ภายในกระเป๋าสะพายข้างบนเบาะด้านหน้าประตูฝั่งซ้าย ขณะตรวจค้นผู้นำพาซึ่งอาวุธปืนดังกล่าวไม่สามารถนำใบอนุญาตพกพาอาวุธปืนมาแสดงต่อหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ พบมีดพร้า 1 เล่ม บริเวณใต้เบาะด้านหน้าประตูฝั่งซ้าย พบขาสัตว์ป่า 4 ขา ใส่ถุงพลาสติกมัดปากถุงมิดชิดแช่น้ำแข็งไว้ในถังหลังรถซึ่งเป็นตู้เย็นเก่า



ตรวจค้นรถคันที่ 6 ไม่พบสิ่งของและอุปกรณ์การกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ซึ่งระหว่างการตรวจค้นมีบุคคลเพศชาย ทราบชื่อภายหลัง นายวัชรชัย สมีรักษ์ จากรถคันที่ 4 แสดงตัวเป็นปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี ให้ถ้อยคำในเบื้องต้นว่า ได้เข้ามาภายในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค ในช่วงเย็นของวันที่ 6 ต.ค.2561 ด้วยรถกระบะ จำนวน 6 คัน เพื่อเข้ามาทำบุญที่สำนักสงฆ์เหมืองเต่าดำ และได้ตั้งแคมป์พักแรม บริเวณสำนักสงฆ์ดังกล่าว จนถึงช่วงเช้าของวันที่ 7 ต.ค.2561 ได้เดินทางออกจากพื้นที่และพบคณะพนักงานเจ้าหน้าที่ฯ ในเวลา 11.30 น. โดยอ้างว่านายอนุสรณ์ เรือนงาม แจ้งว่าได้รับอนุญาตจากหัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค ให้เข้ามาภายในบริเวณดังกล่าวแล้ว ต่อมาในภายหลัง หลังจากที่คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ฯได้ตรวจพบซากสัตว์ป่าและอุปกรณ์กระทำความผิด ผู้ที่อ้างตนว่าเป็นปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี ได้ให้ถ้อยคำเพิ่มเติมว่า ได้แยกตั้งแคมป์พักแรมกับกลุ่มของนายอนุสรณ์ เรือนงาม แต่ตั้งแคมป์พักแรมในบริเวณใกล้เคียงกัน และไม่ทราบ ไม่รู้เห็นกับการกระทำดังกล่าวของนายอนุสรณ์ เรือนงาม ซึ่งระหว่างตรวจค้นคณะพนักงานเจ้าหน้าที่ฯ ได้กลิ่นสุราจากนายวัชรชัย สมีรักษ์ และนายอนุสรณ์ เรือนงาม จึงเชื่อได้ว่าบุคคลทั้ง 2 ดังกล่าวมีการเสพสุราและเป็นไปได้ว่าอาจจะรับประทานอาหารที่ทำจากเนื้อสัตว์ป่า (หมีขอ) ร่วมกัน คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ฯจึงเข้าควบคุมตัวบุคคลทั้ง 11 คน และรถกระบะจำนวน 6 คัน มาตรวจค้นอย่างละเอียด ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติไทรโยค ผลการตรวจค้นปรากฏดังนี้

1.ตรวจค้นรถกระบะ ทะเบียน 2ฒง 3555 กรุงเทพมหานคร พบอาวุธปืนและสิ่งของดังนี้

1) อาวุธปืนลูกกรด cz 442-2 EZKM CAL .22 Long rifle ลำกล้องยี่ห้อ Bushnell 3-9x40E รหัสลำกล้อง A575677 พร้อมกระบอกเก็บเสียง รหัสลูกเลื่อน 292 ความยาวกระบอกเก็บเสียง 8 นิ้ว ความยาวลำกล้อง 23 นิ้ว ความยาวลำกล้องรวมกระบอกเก็บเสียง 31 นิ้ว ความยาวลำกล้องรวมพานท้าย 42.9 นิ้ว ความยาวลำกล้องรวมกระบอกเก็บเสียงรวมพานท้าย 50นิ้ว หมายเลขทะเบียน ไม่ทราบหมวดอักษร 575677




2) เครื่องกระสุน ขนาด .22 LR ยี่ห้อ CCI จำนวน 34 นัด

3) อาวุธปืนพก Glock34 AUSTRIA 9 x 19 จำนวน 1 กระบอก หมายเลขทะเบียน กท 54268040

4) แม็กกาซีน พร้อมเครื่องกระสุน (อยู่ในแม็กกาซีน 12 นัดและอยู่นอกแม็กกาซีน 19 นัด)

5) เครื่องกระสุน ขนาด 5.56 มิลลิเมตร จำนวน 20 นัด

6) มีดพร้า 1 เล่ม และมีดทำครัว 1 เล่ม

7) ตรวจพบซากสัตว์ป่า หมีขอ หรือ บินตุรง (Arctictis binturong) น้ำหนัก 920 กรัม ใส่ถุงพลาสติกมัดปากถุงมิดชิดแช่น้ำแข็งไว้ในถังหลังรถซึ่งเป็นตู้เย็นเก่า เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง สัตว์ป่าจำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ลำดับที่ 194 ออกตามความตามกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ.2546 ออกตามความในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535



2. ตรวจค้นรถกระบะ หมายเลขทะเบียน กง 9960 นครปฐม พบ มีดทำครัว จำนวน 1 เล่ม รายละเอียดปรากฏตามบัญชีของกลางแนบท้ายบันทึกฉบับนี้

3.ตรวจค้นรถกระบะ หมายเลขทะเบียน กค 9704 กาญจนบุรี พบ มีดพร้า จำนวน 2 เล่ม รายละเอียดปรากฏตามบัญชีของกลางแนบท้ายบันทึกฉบับนี้

4. ตรวจค้นรถกระบะ หมายเลขทะเบียน บล 6111 กาญจนบุรี ไม่พบสิ่งของและอุปกรณ์การกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้

5. ตรวจค้นรถกระบะ หมายเลขทะเบียน กค 4974 กาญจนบุรี ไม่พบสิ่งของและอุปกรณ์การกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้

6. ตรวจค้นรถกระบะ หมายเลขทะเบียน กง 1173 ราชบุรี พบเขียงไม้มีร่องรอยการใช้ในการเตรียมอาหาร 1 รายการ



ขณะทำการตรวจค้นรถยนต์ นายวัชรชัย สมีรักษ์ ปลัดอำเภอฯ ไม่ยินยอมให้คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ฯตรวจค้นตัว ต่อมาในเวลา 18.34 น. ด.ต.โกศล ตาลผาด ผบ.หมู่(ป.) และ ด.ต.พงษ์วิสุทธิ์ สิทธิสาร ผบ.(ป.) สภ.ไทรโยค เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรไทรโยค ได้ขอตรวจค้นภายในกระเป๋าสะพายของนายวัชรชัย สมีรักษ์ พบอาวุธปืนพก SIGSAUER P320SP ขนาด 9 มิลลิเมตร หมายเลขปืน 58C300851 หมายเลขทะเบียน กท 61476244 พร้อมเครื่องกระสุนบรรจุภายในแม็กกาซีน จำนวน 16 นัด แต่ไม่พบใบอนุญาตพกพาอาวุธปืนแต่อย่างใด



คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ฯ ได้ร่วมกันพิจารณาแล้วเห็นว่าพฤติกรรมของกลุ่มบุคคลดังกล่าวทั้ง 11 คนข้างต้น ได้ขับรถเข้าไปในพื้นที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ รวมถึงมีการนำอาวุธปืน เครื่องมือสำหรับล่าสัตว์ เข้าไปล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง ในเขตอุทยานแห่งชาติ การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดว่าด้วยกฎหมายเกี่ยวกับป่าไม้และกฎหมายอื่นๆ ดังนี้

1. ฐานร่วมกันเก็บหานำออกไป ทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตรายหรือทำให้เสื่อมสภาพ ซึ่งไม้ ยางไม้ น้ำมันยาง น้ำมันสน แร่ หรือทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ ตามมาตรา 16 (2) ประกอบมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504

2. ฐานร่วมกันนำสัตว์ออกไป หรือทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ ตามมาตรา 16 (3) ประกอบมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504

3. ฐานร่วมกันนำยานพาหนะเข้าออก หรือขับขี่ยานพาหนะ ในทางที่มิได้จัดไว้เพื่อการนั้นเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 16 (9) ประกอบมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504

4. ฐานร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์หรือจับสัตว์ หรืออาวุธใด ๆ เข้าไป เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ และปฏิบัติตามเงื่อนไขซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้อนุญาตนั้นกำหนดไว้ ตามมาตรา 16 (15) ประกอบมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504

5. ฐานร่วมกันล่า หรือพยายามล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง เว้นแต่เป็นการกระทำโดยทางราชการที่ได้รับยกเว้น ตามมาตรา26 ตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ประกอบมาตรา 47

6. ฐานร่วมกันมีไว้ครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าสงวน หรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง เว้นแต่จะเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดที่กำหนดตาม มาตรา 17 ที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ หรือซากของสัตว์ป่าดังกล่าว และต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดี และต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดในกฎกระทรวงและเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในใบอนุญาต ตามมาตรา 19 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ประกอบมาตรา 47

7. ฐานร่วมกันซ่อนเร้น ช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับไว้โดยประการใดซึ่งสัตว์ป่าหรือซากของสัตว์ป่า อันได้มาโดยการกระทำความผิด ตามมาตรา 55 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535

8. ฐานร่วมกันเก็บหาของป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ ตามมาตรา 14ประกอบมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507

9. ฐาน ครอบครองอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในราชการสงคราม และขอให้พนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามบทกฎหมายที่เกี่ยวข้อง



คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ฯได้แจ้งให้ น.ส.ศรีวิจิตร ดิษฐ์แช่ม, นายทัศดนัย ขอกระโชก, นายฉัตรชัย เกาะลอย, นายจิรชัย ตันติวัฒนสิทธิ์, ว่าที่ ร.ต.สุนทร มาเจริญรุ่งเรือง, นายสกานต์ แก่งหลวง, นายอนุสรณ์ เรือนงาม, นายประสาน เต็มธนัน, นางอรุณ แสงใส, นายถาวร เซี่ยงหลิว, นายวัชรชัย สมีรักษ์ ทราบว่า พวกท่านทั้ง 11 คน ต้องถูกจับกุม และถูกนำตัวไปยังที่ทำการของพนักงานสอบสวน พร้อมยึดของกลาง จำนวน 15 รายการ รายละเอียดปรากฏตามบัญชีของกลางแนบท้ายบันทึกฉบับนี้ ร่วมทั้งแจ้งให้ผู้ถูกจับทราบว่า

1. ผู้ถูกจับมีสิทธิที่จะไม่ให้การหรือให้การก็ได้

2. ถ้อยคำของผู้ถูกจับนั้นอาจใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีได้

3. ผู้ถูกจับมีสิทธิจะพบและปรึกษาทนายหรือผู้ซึ่งจะเป็นทนายความ

4. ถ้าผู้ถูกจับประสงค์จะแจ้งให้ญาติ หรือผู้ซึ่งตนไว้วางใจทราบถึงการจับกุมที่สามารถ ดำเนินการได้โดยสะดวกและไม่เป็นการขัดขวางการจับหรือการควบคุมถูกจับ หรือทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยแก่บุคคลหนึ่งบุคคลใด เจ้าพนักงานสามารถอนุญาตให้ผู้ถูกจับดำเนินการได้ตามสมควรแก่กรณี

5. ผู้ถูกจับมีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลโดยเร็วเมื่อเจ็บป่วย



ผู้ถูกจับทุกคนทราบสิทธิตามกฎหมายแล้ว และไม่ขอให้ถ้อยคำใดๆในการจับกุม/ตรวจยึดครั้งนี้ คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ฯเป็นพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งถ้าผู้ถูกจับขัดขวางหรือจะขัดขวางการจับ หรือหลบหนี หรือพยายามจะหลบหนี ผู้ทำการจับมีอำนาจใช้วิธีหรือการป้องกันทั้งหลายเท่าที่เหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งเรื่องในการจับนั้นได้ ตามมาตรา 83 วรรคท้าย และเจ้าพนักงานผู้จับมีอำนาจค้นตัวผู้ต้องหาและยึดสิ่งของต่างๆที่อาจใช้เป็นพยานหลักฐานได้ ตามมาตรา 85 วรรคหนึ่ง



เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2561 เวลาประมาณ 11.30 น.บริเวณพิกัด UTM_WGS ๑๙๘๔ ZONE ๔๗ P๐๔๗๙๔๘๕E ๑๕๗๔๔๒๒N ป่าเขาพลู หมู่ที่ 8 ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ภายในป่าสงวนแห่งชาติป่าวังใหญ่ และป่าแม่น้ำน้อย ห่างจากแนวเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค 1.289 กิโลเมตร ทั้งนี้ได้แนบเอกสารที่เกี่ยวข้องมาท้ายบันทึกการจับกุม/ตรวจยึด รายละเอียดปรากฏตามเอกสารอื่นที่แนบท้ายบันทึกการจับกุม/ตรวจยึดฉบับนี้ หากมีเอกสารอื่นใดที่เกี่ยวข้องจะทำการส่งให้พนักงานสอบสวนพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไป สำหรับซากสัตว์ป่าของกลาง คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ฯขออนุมัติพนักงานสอบสวนเพื่อเก็บรักษาและส่งตัวอย่างชิ้นเนื้อเพื่อตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ต่อไป



คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ฯจึงได้ร่วมกันตรวจยึดซากสัตว์ป่าของกลาง รวมถึงของกลางในการกระทำความผิดแนบท้ายบันทึกฉบับนี้ สำหรับอาวุธปืนและเครื่องกระสุนได้มอบให้พนักงานสอบสวนรับไปดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ และมอบหมายให้ นายพนัชกร โพธิบัณฑิต ตำแหน่งนักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ ทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค เป็นผู้กล่าวโทษ น.ส.เนตรนภา งามเนตร นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ ทำหน้าที่ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค เป็นพยานตามลำดับ นำเรื่องราวเข้ากล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เพื่อดำเนินการสอบสวนดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิดตามฐานความผิดดังกล่าวข้างต้น ต่อไป



อนึ่ง ในการจับกุม/ตรวจยึดของกลางครั้งนี้ คณะเจ้าหน้าที่ได้กระทำไปตามอำนาจหน้าที่ มิได้บังคับขู่เข็ญหรือทำลายร่างกายผู้หนึ่งผู้ใด และมิได้เรียกร้องทรัพย์สินเงินทองจากผู้หนึ่งผู้ใดหรือรวมทั้งมิได้ทำให้ทรัพย์สินของผู้หนึ่งผู้ใดสูญหาย เสียหายแต่อย่างใด พร้อมทั้งได้ถ่ายรูป ถ่ายภาพเคลื่อนไหวขณะทำการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานด้วยแล้ว ได้อ่านบันทึกการจับกุม/ตรวจยึดฉบับนี้ ให้ผู้เกี่ยวข้องทุกคนฟังและอ่านเองแล้วรับว่าถูกต้องเป็นความจริงและให้ใช้บันทึกการตรวจยึดนี้เป็นพยานหลักฐานในชั้นพนักงานสอบสวน และชั้นศาลได้ จึงได้ลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน