นำร่อง "คิวอาร์เลิฟ" รร.เทศบาล แก้ปัญหาลืมเด็กในรถตู้

2018-09-20 14:05:11

นำร่อง "คิวอาร์เลิฟ" รร.เทศบาล   แก้ปัญหาลืมเด็กในรถตู้

Advertisement

ตำรวจ สภ.คลองท่อม จ.กระบี่ ผุดโครงการ "คิวอาร์เลิฟ" ติดตั้งพวงกุญแจคิวอารโค้ด ประจำตัวเด็กนักเรียน เพื่อแจ้งให้ผู้ปกครองทราบว่า เด็กมาถึงโรงเรียนแล้ว และออกจากโรงเรียนกี่โมง ป้องกันปัญหาลืมเด็กในรถตู้รับ-ส่งนักเรียน โดยนำร่องที่ รร.คลองท่อมใต้เป็นแห่งแรก สร้างความอบอุ่นใจแก่ผู้ปกครอง

เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ที่ รร.เทศบาลคลองท่อมใต้ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ พ.ต.อ.ภาสกร สนธิกุล ผกก.สภ.คลองท่อม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ได้เข้าให้คำแนะนำวิธีการใช้ “คิวอาร์เลิฟ” หรือ พวงกุญแจคิวอาร์โค้ด ให้แก่ ผอ.โรงเรียน และครูประจำชั้นอนุบาล 1/4 และชั้นอนุบาล 2/1 ของ รร.เทศบาลคลองท่อมใต้ โดยจะติดตั้งไว้ที่กระเป๋าของนักเรียนทุกคน จากนั้นครูประจำชั้นจะใช้สมาร์ทโฟน สแกนที่พวงกุญแจคิวอาร์โค้ด ข้อมูลประจำตัวเด็กนักเรียนแต่ละคน จะถูกส่งไปยังสมาร์ทโฟนของผู้ปกครอง ขณะที่เข้าห้องเรียน และออกจากโรงเรียน เพื่อให้ผู้ปกครองที่อยู่ที่บ้าน ทราบว่า บุตรหลานได้เข้าเรียนในเวลากี่โมง และออกจากห้องเรียนเวลากี่โมง ผ่านแอพพลิเคชั่นที่ติดตั้งในโทรศัพท์มือถือโดยอัตโนมัติ

พ.ต.อ.ภาสกร เปิดเผย ถึงที่มาของโครงการคิวอาร์เลิฟว่า สืบเนื่องจากรัฐบาลได้มีนโยบายให้หน่วยงานต่างๆ นำเทคโนโลยีในยุค 4.0 มาใช้ในการพัฒนา ประเทศ และตำรวจภูธรภาค 8 ได้มีการนำระบบสแกนคิวอาร์โค้ดมาใช้ กับตำรวจสายตรวจ แทนการการเซ็นชื่อในสมุดตู้แดงเพื่อความสะดวกและรวดเร็ว ทางตำรวจ สภ.คลองท่อม จึงได้นำระบบดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหาการหลงลืมเด็กในรถตู้ รับ-ส่งนักเรียน ซึ่งที่ผ่านมาได้เกิดเหตุสลดมาแล้วหลายราย จึงได้นำระบบคิวอาร์โค้ด มาใช้ติดตามตัวเด็ก เมื่อเด็กมาถึงโรงเรียนแล้ว ผู้ปกครองก็จะได้ทราบว่า มาถึงโรงเรียนในเวลาใด และออกจากโรงเรียน เวลาใด ซึ่งเฟสแรกที่ดำเนินการ คือ นำร่องใน รร.เทศบาลคลองท่อมใต้เป็นแห่งแรก ซึ่งได้ผลตอบรับดีจากผู้ปกครอง ทำให้มีความมั่นใจในความปลอดภัยมากขึ้น และโครงการต่อไป ก็จะมีการติดตั้งคิวอาร์โค้ดติดตามตัวเด็ก เพื่อป้องกันเด็กพลัดหลง โดยเมื่อสแกนคิวอาร์โค้ด แล้วจะมีข้อมูลของชื่อเด็ก และเบอร์โทรศัพท์ติดต่อผู้ปกครอง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาระบบ




ด้านนางสภาพิมพ์ ชูเอียด อายุ 35 ปี ผู้ปกครองนักเรียนที่ร่วมโครงการ กล่าวว่า เป็นโครงการที่ดีมาก ผู้ปกครองก็มีความสบายใจมากขึ้น โดยเฉพาะคนที่ต้องฝากบุตรหลานไปโรงเรียนกับรถโดยสาร หรือรถตู้ ทันทีที่เด็กไปถึงโรงเรียนก็จะรู้ว่า ลูกลงจากรถไปเข้าห้องเรียนแล้วหรือไม่ และเวลาเท่าไหร่ และออกจากห้องเรียนเวลาใด ซึ่งทางโรงเรียนก็จะส่งข้อมูลผ่านโทรศัพท์มือถือเข้ามาให้ได้รับทราบทันที จึงไม่ต้องกังวล เหมือนที่ผ่านมา