เปิดแฟ้มลับ "อัญชะลี" สื่อสาวผู้ร้าวฉานกับ "เสก โลโซ"

2018-05-31 16:20:00

เปิดแฟ้มลับ "อัญชะลี" สื่อสาวผู้ร้าวฉานกับ "เสก โลโซ"

Advertisement

หลังผู้ประกาศข่าวสาวใหญ่ "ปอง อัญชะลี ไพรีรัก" ก่นด่ากรณี "เสก โลโซ" วิจารณ์พุทธะอิสระออกหน้าจออย่างรุนแรง จนเกิดความไม่พอใจแก่ร็อกเกอร์ขาใหญ่ ถึงขั้นโพสต์เฟซบุ๊กระดมแฟนคลับจัดหนักคนละดอก อีกทั้งยังพูดจาเชิงดูถูกเจ้าหน้าที่ที่คบหากับนักร้องหนุ่ม รับรองไม่มีเจริญทุกคน ... 



กำลังเป็นเพลิงที่คุกรุ่นกลิ่นควันคลุ้งไหม้ไฟแดงโร่แก่ชาวโซเชียล รวมถึงสื่อหลายๆ สำนักเฝ้าจับตา หลังจากที่ อัญชะลี ไพรีรัก หรือ เจ๊ปอง จัดรายการข่าวด่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บุกไปจับกุม นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ อดีตพระพุทธะอิสระ ถึงกุฏิในวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ซึ่งจากกรณีร้อนๆ นี้ยังมีแถมฟรีเรื่องดีๆ อีกเรื่องคือ นอกจากผู้ประกาศข่าวสาวใหญ่จะเปิดฉากฉะเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ยังลุกลามไปถึงเหตุก่อนหน้านี้ที่ "เสก โลโซ" นักร้องนักแต่งเพลงชื่อดัง จากครั้งที่เคยโพสต์เฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นส่วนตัวถึงนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ อาทิ ถ้ามันไม่ได้ห่มผ้าเหลืองนี่โดนข้าด่าเลอะไปนานแล้ว เดี๋ยวถ้าเจอจะตบสักที ไอ้นี่สารเลว ฯลฯ






ซึ่งในการอ่านข่าวครั้งนั้น คุณปอง ได้พูดถึงตอนที่เสกโดนตำรวจจับ ความว่า ขณะที่เสกรอเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไลฟ์สดไปเรื่อยๆ แถมเรียกตำรวจทุกนายว่าพี่ พี้ยาขนาดนี้ ยังไปกินข้าวกัน ยังคบหาสมาคมกับตำรวจ เสียหายไปกี่ยศ กี่ตำแหน่งแล้ว และเมื่อรายการดังกล่าวเผยแพร่ออกอากาศไป เสก โลโซ เกิดความไม่พอใจอย่างมาก จึงโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Sek Loso ระดมพลคนรักเสกให้มาช่วยจัดการ เจ๊ปอง ระบุว่า "แฟนคลับโลโซว่าไงจ๊ะ ? ช่วยจัดให้ซักคนละดอก ขี้เกียจทะเลาะกับผู้หญิง อีกไม่ถึงชั่วโมงจะเข้าวันพระ"





เมื่อ เสก โลโซ ประกาศสงครามขนาดนี้ งานนี้ก็ไม่สามารถระบุได้ว่าทางฝั่งคุณปองจะออกมาตอบโต้ใดๆ หรือไม่ ก็คงต้องติดตามตอนต่อไปกันแบบยาวๆ ว่าแล้วเรามาทำความรู้จักผู้ประกาศข่าวสาวคนนี้กันดีกว่า เผื่อจะได้รู้ว่าต้นสายปลายเหตุถึงเธอผู้มีฝีปากกล้าแกร่งคนนี้ มีที่มาอย่างไร เธอจึงได้เป็นผู้ประกาศข่าวแถวหน้าที่สื่อทุกสำนักจับตามอง "อัญชะลี ไพรีรัก"





อัญชะลี ไพรีรัก เกิดวันที่  25 ตุลาคม พ.ศ. 2505 ที่อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ชื่อเล่น "ปอง" มาจากคำว่า "ปิงปอง" ผู้คนต่างรู้จักกันดีในชื่อ "เจ๊ปอง" เคยเป็นผู้มีบทบาททางการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พ.ศ. 2551 และเมื่อปี พ.ศ. 2549 เมื่อปี พ.ศ. 2551 เป็นผู้จัดรายการเล่าข่าวยามเช้าบนเวทีปราศรัย รวมถึงในช่วงปี พ.ศ. 2556–2557 เป็นพิธีกรประจำเวทีการชุมนุมของ กปปส. (คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข)



เริ่มต้นชีวิตในวัยทำงานในเส้นทางของนักสื่อสารมวลชน ด้วยการเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์ และด้วยความที่เป็นนักสื่อสารมวลชนคนหนึ่งที่คร่ำหวอดในเส้นทางนี้มาถึง 20 ปี ทำให้ อัญชะลี ไพรีรัก ได้ทำงานที่ค่อนข้างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์ ทำข่าวประกวด ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวการเมือง ข่าวตลาดหุ้น ข่าวการตลาด จนกระทั่งเป็นผู้ประกาศข่าวทาง ช่อง 7 สี





ในปี พ.ศ. 2539 ได้เป็นพิธีกรแทนบุญยอด สุขถิ่นไทย ทางรายการ "กู๊ด มอร์นิ่ง บางกอก" ที่ลาหยุดไปเนื่องจากป่วย 2 วัน และเริ่มเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในช่วงรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยความเป็นนักจัดรายการวิทยุที่กล้าวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลอย่างตรงไป ตรงมา และมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง ซึ่งในตอนนั้นอัญชะลีจัดรายการวิทยุอยู่ที่คลื่น FM. 96.5 MHz รายการ "จับชีพจรข่าว"



ต่อมาได้ถูกยุติการทำรายการ เนื่องจากถูกแทรกแซงทางการเมืองจากรัฐบาลในสมัยนั้น จึงหันไปจัดรายการเกี่ยวกับผู้หญิงทางช่อง 3ได้ 2 สัปดาห์ ก่อนจะได้รับการเชื้อเชิญจากนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ เจ้าของธุรกิจทีพีไอ ให้มาทำวิทยุคลื่นประชาธิปไตย FM. 92.25 MHz โดยเป็นผู้ริเริ่ม ทั้งวางผังและจัดรายการเองทั้งหมด แต่ต่อมาก็ถูกแทรกแซงอีกครั้ง จนต้องลาออกมา





จนกระทั่งในต้นปี พ.ศ. 2549 ที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้เริ่มต้นการขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างจริงจังแล้ว อัญชะลีจึงได้เข้าร่วมและได้ร่วมจัดรายการบนเวทีและในรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร คอนเสิร์ตการเมือง คู่กับยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที ในรายการชื่อ "ติดดาบปลายปืน" แต่มิได้เป็นพนักงานในเครือผู้จัดการแต่อย่างใด



หลังการรัฐประหารเมื่อปี 2549 ได้เดินทางไปเรียนต่อที่ประเทศออสเตรเลียได้ระยะหนึ่ง จึงเดินทางกลับมา จากนั้นในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 อัญชะลีได้ลงสมัครรับเลือกตั้งใน จังหวัดสมุทรปราการ สังกัดพรรคเพื่อแผ่นดิน อันเนื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวที่มีกับแกนนำพรรค แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง



ในการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พ.ศ. 2551 อัญชะลีได้กลับมาร่วมชุมนุมอีกครั้ง โดยเป็นผู้จัดรายการเล่าข่าวตอนเช้าบนเวทีคู่กับกมลพร วรกุล ภายหลังการชุมนุมยุติลงก็ได้ทำหน้าที่เป็นพิธีกรรายการเคาะข่าวริมโขงและแขกรับเชิญรายการสภาท่าพระอาทิตย์ทุกวันจันทร์และศุกร์ และมีรายการประจำ ชื่อ "จับตาประเทศไทย" ออกอากาศทุกคืนวันอาทิตย์ 20.30 - 21.00 น. ทาง เอเอสทีวี เป็นรายการเล่าข่าวทั่วไป



ต่อมา อัญชะลีได้ยุติรายการทั้งหมดทางเอเอสทีวี และสื่อต่างๆ ในเครือผู้จัดการหมดแล้ว โดยมีเสียงร่ำลือกระแสหนึ่งกล่าวว่า ได้ออกไปทำงานส่วนตัว และเป็นเลขานุการให้กับ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ส่วนอีกกระแสหนึ่งกล่าวว่า ได้เป็นบรรณาธิการให้กับนิตยสารท่องเที่ยว 



อัญชะลีเคยเป็นผู้จัดรายการ "ร้อยข่าวบลูสกาย" และ "ร้อยข่าวสุดสัปดาห์" ทางบลูสกายแชนแนล



หลังการรัฐประหารเมื่อปี 2557 อัญชะลีได้ร่วมงานกับสถานีโทรทัศน์นิวทีวี ช่อง 18  โดยเป็นผู้ดำเนินรายการ "หมายข่าวนิวทีวี" ออกอากาศในช่วงเย็น โดยเริ่มออกอากาศตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2557 อัญชะลีได้ลาออกจากนิวทีวี ช่อง 18 เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2561



ปัจจุบัน เข้าทำงานเป็นผู้ประกาศข่าวรายการ เนชั่นทันข่าว คู่กับ ศุภโชค โอภาสะคุณ และ สถาปัตย์ แพทอง ทุกวันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 18.20 - 20.00 น. สถานีโทรทัศน์ช่องเนชั่นทีวี (กดหมายเลข 22) ตั้งแต่ วันอังคารที่ 1 พฤษภาคม 2561