ลูกศิษย์รุดเยี่ยม “อดีตพระพุทธะอิสระ” ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ทนายความเผยหลวงปู่ปฏิเสธคดีทำร้าย 2 นายตำรวจ แต่รับสารภาพใช้พระปรมาภิไธยปลอม ยันไม่มีเจตนาดูหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ “ไพบูลย์”ระบุอดีตพระพุทธะอิสระ ไม่อยากให้ลูกศิษย์เป็นห่วง จิตใจหนักแน่น ดั่งขุนเขา เยือกเย็น สงบ ช่วงนี้ขอปลีกวิเวกปฏิบัติกรรมฐาน
เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) บุกเข้าจับกุมตัว “พระพุทธะอิสระ” นำมาสอบปากคำที่ บก.ป. เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ที่ผ่านมา พร้อมนำตัวไปยื่นคำร้องฝากขังต่อศาลอาญา ในความผิด ฐานร่วมกันเป็นหัวหน้าอั้งยี่ซ่องโจร ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นให้เป็นอันตรายต่อร่างกายจิตใจ ร่วมกันปล้นทรัพย์ผู้อื่น ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดหรือไม่กระทำการใด ร่วมกันใช้ให้ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่พนักงานที่กระทำตามหน้าที่ เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นปล้นทรัพย์ จนได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ หัวหน้าอั้งยี่ซ่องโจร นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาแอบอ้างใช้ปรมาภิไธย กรณีสร้างพระเครื่องพระนาคปรก รุ่นหนึ่งในปฐพีด้วย จนนำไปสู่การถูกจับสึกและนำตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครเมื่อกลางดึกวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 25 พ.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรดาลูกศิษย์อดีตพระพุทธะอิสระ รวมถึง นายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป และอดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทาง และมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา เดินทางมาเยี่ยมอดีตพระพุทธะอิสระ ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครด้วย
นายธีรยุทธ สุวรรณเกสร ทนายความ เปิดเผยว่า ได้พูดคุยกันหลวงปู่แล้ว ได้กราบเรียนท่านในหลาย ๆอย่าง สำหรับคดีทำร้ายร่างกายตำรวจสันติบาล 2 นายบาดเจ็บสาหัสจนเป็นมูลเหตุให้ถูกหมายจับและถูกจับกุม อดีตพระพุทธะอิสระ ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ทำร้ายและขอต่อสู้คดีในชั้นศาลอย่างเต็มที่ ส่วนคดีพนักงานสอบสวนกล่าวหาว่า มีการปลอม หรือใช้พระปรมาภิไธยปลอมนั้น อดีตพระพุทธะอิสระประสงค์ให้การรับสารภาพในชั้นต้น แต่คงจะกราบเรียนให้ศาลท่านทราบข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่ปรากฎต่อไป โดยเจตนาของหลวงปู่คือ ท่านไม่มีเจตนาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพใด ๆ ทั้งสิ้น
สำหรับการประกันตัว นายธีรยุทธ กล่าวว่า เมื่อใดที่พนักงานสอบสวนยื่นคำฟ้องต่ออัยการหรือศาล เราจะยื่นขอประกันตัวทันที ทั้งนี้ทราบว่าพนักงานสอบสวนจะสอบพยานอีก 5 ปาก ไม่รู้จะใช้เวลานานเท่าใด อย่างไรก็ตามได้เตรียมหลักทรัพย์1.5 แสนบาท ไว้ยื่นประกันตัวต่อไป
ด้าน นายไพบูลย์ กล่าวว่า หลวงปู่สุขภาพแข็งแรง สบายดี ทั้งนี้ที่สงสัยว่าหลวงปู่ขาดจากการเป็นพระหรือไม่ ยังยืนยันว่าท่านไม่ได้เปล่งวาจาลาสิกขา ดังนั้นในทางพระธรรมวินัยยังถือว่าเป็นพระภิกษุ แต่ในทางกฎหมายก็ว่ากันไป สิ่งที่เป็นห่วงคือ การเผยแพร่ภาพและคลิปวิดีโอการจับกุมในกุฎิที่ออกมา พบว่า สร้างความรู้สึกไม่ดี ตนไม่สบายใจ เพราะแตกต่างกับการจับกุมพระวัดอื่นในวันเดียวกัน วิธีการที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติแตกต่างกัน ตอนแรกจะทำหนังสือถึง ผบ.ตร. และนายกฯ แต่หลวงปู่ห้ามไว้ โดยหลวงปู่ระบุว่าเป็นบทเหมาะสมที่สุด ดีที่สุดแล้ว แม้หลวงปู่เป็นผู้หนึ่งถูกดำเนินคดี เพราะเข้าใจความจำเป็นของรัฐบาล ของเจ้าหน้าที่ ตนจึงน้อมรับเจตจำนงของหลวงปู่
“สำหรับการขอประกันตัว หลวงปู่ขอยังอยู่ในเรือนจำต่อไป ยังไม่ขอในช่วงนี้ เนื่องจากอยากปฏิบัติกรรมฐาน ปลีกวิเวกอยู่ในช่วงเวลาหนึ่ง เมื่อถึงห้วงเวลาเหมาะสมก็ค่อยว่ากันต่อไป หลวงปู่ฝากบอกสังคม ลูกศิษย์ว่าไม่ต้องห่วงใย ขอให้คิดว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นคุณของแผ่นดิน เป็นสิ่งที่หลวงปู่ต่อสู้มาตลอดชีวิตเพื่อให้เกิดเหตุเมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา”นายไพบูลย์ กล่าว
นายไพบูลย์ กล่าวย้ำว่า หลวงปู่ไม่อยากให้ลูกศิษย์เป็นห่วงอะไร ด้วยความที่จิตใจของท่านเป็นพระแท้ ย่อมไม่หวั่นไหวกับสิ่งที่เกิดขึ้น และท่านมุ่งมั่นรักษาหลักการแห่งพระธรรมวินัย จิตใจที่หลวงปู่มีอยู่ในตอนนี้ก็เป็นจิตใจที่หนักแน่น ดั่งขุนเขาหรือภูผาก็ได้ เยือกเย็น สงบ ท่านขอปลีกวิเวก และปฏิบัติกรรมฐานในช่วงนี้