เมแกน มาร์เคิล “เจ้าสาวผู้โดดเดี่ยว” “หน้าที่นี้พ่อทำเอง” เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์

2018-05-19 10:40:42

เมแกน มาร์เคิล “เจ้าสาวผู้โดดเดี่ยว”   “หน้าที่นี้พ่อทำเอง” เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์

Advertisement

ลัดเลาะรอบโลกกับสันติ สร้างนอก วันนี้ จะพาผู้อ่านทุกท่านส่งกำลังใจไปให้เมแกน มาร์เคิล กับการตามล่าหาความฝันตำแหน่ง “เจ้าหญิง” ที่เธอฝันมาตั้งแต่เด็ก และฝันกำลังจะเป็นจริง แต่เธอช่างเป็น “เจ้าสาวผู้โดดเดี่ยว” เหลือเกิน ผู้เป็นพ่อล้มป่วย ไม่สามารถมาทำหน้าที่จูงมือลูกสาวเข้าโบสถ์ในวันสำคัญที่สุดของชีวิตได้ ทั้ง ๆ ที่ในวันสำคัญนี้ เธออยากเห็นพ่อกับแม่ ที่หย่าร้างกันไปตั้งแต่เธออายุ 6 ขวบ มาอยู่กันพร้อมหน้าในโบสถ์ ........... แล้วอะไรเกิดขึ้นกับเธอ.... ไปติดตามกัน



เป็นที่แน่นอนแล้วว่า เมแกน มาร์เคิล นักแสดงสาวเลือดผสมชาวอเมริกัน พระคู่หมั้นของเจ้าชายแฮร์รี รัชทายาทลำดับที่ 6 แห่งราชวงศ์อังกฤษ จะเดินเข้าโบสถ์เซนต์จอร์จ ในพระราชวังวินด์เซอร์ ในฐานะเจ้าสาว โดยไม่มีบิดา คือนายโธมัส มาร์เคิล วัย 73 ปี เดินเคียงข้าง หลังจากนายโธมัส มีปัญหาสุขภาพ โรคหัวใจกำเริบ ต้องเข้ารับการผ่าตัดกะทันหัน และอยู่ระหว่างการพักฟื้นในโรงพยาบาล ประเทศเม็กซิโก จนต้องพลาดงานสำคัญของบุตรสาว ซึ่งมันก็ยากที่ลูกคนหนึ่งจะทำใจได้ กับวันสำคัญที่สุดของชีวิตที่จะเกิดขึ้นโดยไม่มีพ่ออยู่เคียงข้าง เพราะเธอหวังเหลือเกินว่า ในพิธีเสกสมรสที่จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 19 พฤษภาคมนี้ จะมีทั้งพ่อ และแม่ คือนางดอเรีย แร็กแลนด์ ที่หย่าร้างกันไปตั้งแต่เธออายุได้เพียง 6 ขวบ อยู่กันพร้อมหน้าในโบสถ์เซนต์จอร์จ เพราะแม้พ่อกับแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน เธอก็สนิทสนมกับทั้ง 2 คน



ก่อนหน้านี้ พ่อกับแม่เคยออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า ในฐานะที่เป็นพ่อแม่ พวกเขาทั้งสองต่างตื่นเต้นและดีใจกับข่าวดีของบุตรสาว ต่างมีความสุขอย่างท่วมท้นกับเมแกนและแฮร์รี บอกด้วยว่า ลูกสาวของพวกเขาเป็นคนจิตใจดีงาม น่ารัก และการได้เห็นเธออยู่กับแฮร์รี ซึ่งมีอะไรหลายอย่างคล้ายกัน มันก็เป็นความสุขอย่างยิ่งสำหรับคนที่เป็นพ่อแม่ พร้อมอวยพรให้ทั้งคู่มีความสุขไปชั่วชีวิต และตื่นเต้นดีใจมากสำหรับทั้งคู่ที่จะได้ใช้ชีวิตร่วมกันในอนาคต



แต่ความหวังของเธอที่จะเห็นพ่อกับแม่อยู่กันพร้อมหน้าในวันที่ยิ่งใหญ่ของลูก กลับพังทลายลง ความรู้สึกเหนือคำบรรยาย คงไม่มีคำใดจะเอ่ยได้ดั่งใจในขณะนั้น



สิ่งที่ทุกคนได้เห็นก็คือ “น้ำตา” ที่ไหลพรากอาบสองแก้ม เมแกน มาร์เคิล ยอมรับว่าเธอเสียใจและร้องไห้ออกมา ที่พ่อต้องล้มป่วยเข้าผ่าตัด ซึ่งเธอบอกว่าห่วงใยสุขภาพของพ่อเสมอ และขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งให้ แต่ก็ขอให้ทุกคนทราบด้วยว่าเจ้าชายแฮร์รีกับเธอกำลังตั้งตารอที่จะได้ร่วมแบ่งปันวันที่แสนพิเศษกับทุกคนในวันเสาร์

ไม่เพียงแต่เมแกน มาร์เคิล เท่านั้นที่เศร้า แม้แต่แฟนคลับของราชวงศ์อังกฤษ ที่มารวมตัวกันอยู่ด้านนอกพระราชวังวินด์เซฮร์ เพื่อมีส่วนร่วมในพิธี ก็มีอารมณ์ร่วมไปกับเธอด้วย และแสดงความเสียใจเมื่อทราบข่าวนี้



เมื่อวันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา เมแกน มาร์เคิล ได้พาแร็กแลนด์ ซึ่งเป็นครูสอนโยคะและนักสังคมสงเคราะห์ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน วัย 61 ปี เข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 พระชนมายุ 92 พรรษา และเจ้าชายฟิลิป พระสวามี พระชนมายุ 96 พรรษา ในงานเลี้ยงน้ำชาที่พระราชวังวินด์เซอร์ หลังจากที่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นางแร็กแลนด์ได้เข้าเฝ้าสมาชิกในราชวงศ์องค์อื่น ๆ ไปแล้ว

นักวิเคราะห์ราชวงศ์ คาดการณ์กันว่า ในการเข้าเฝ้าควีนเอลิซาเบธที่ 2 ครั้งนี้ นางแร็กแลนด์ น่าจะได้รับการวางตัวให้เป็นผู้พาลูกสาวเดินเข้าโบสถ์ อย่างไรก็ตาม ก็คงมีการปรึกษาหารือกันพอสมควรเกี่ยวกับพิธีต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น แต่ก็ยังไม่มีประกาศออกมาอย่างเป็นทางการอยู่ดี ว่าใครจะเป็นผู้เดินนำเมแกน มาร์เคิล เข้าสู่พระราชพิธีในโบสถ์เซนต์จอร์จ?




เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ จึงเกิดคำถามตามมาว่า แล้วใครจะทำหน้าที่จูงเธอเข้าโบสถ์แทนนายโธมัส มาร์เคิล ผู้เป็นพ่อ?



แต่ขณะที่เหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมง พิธีเสกสมรสอย่างเป็นทางการก็จะเริ่มต้นขึ้น มันก็เกิดฉากซึ้งขึ้นจนห้ามน้ำตาของใครหลายคนไม่ได้ เมื่อเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฏราชกุมารแห่งราชวงศ์อังกฤษ ซึ่งเป็นพระบิดาของเจ้าชายแฮร์รีเอง ตอบรับคำทูลขอของเมแกน มาร์เคิล ให้พระองค์เป็นทำหน้าที่แทนพ่อของเธอ เดินเคียงข้างเธอเข้าโบสถ์ โดยสำนักพระราชวังเคนซิงตัน ของเจ้าชายแฮร์รี ออกแถลงการณ์ฉบับหนึ่งว่า เมแกน มาร์เคิล ได้กราบทูลขอให้เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์ เป็นผู้ทำหน้าที่นี้

และแน่นอนว่า ด้วยความที่เป็นพ่อเช่นกัน ย่อมเข้าใจถึงหัวอกของผู้เป็นลูก พระองค์ทรงตอบรับ “หน้าที่นี้พ่อทำเอง”



“พ่อมีความยินดีอย่างมากในการทำหน้าที่เพื่อต้อนรับน.ส.มาร์เคิล เข้าเป็นสมาชิก และพระสุนิสา (สะใภ้) แห่งราชวงศ์อังกฤษ” จากแถลงการณ์ของพระราชวังเคนซิงตัน

ในที่สุดเธอก็ไม่ได้เป็นเจ้าสาวที่โดดเดี่ยว แต่กลับได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น ในฐานะ “สะใภ้หลวง” ของราชวงศ์อังกฤษ

ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้เธอ ไปให้ถึงฝัน “เจ้าหญิง” ที่เธอฝันอยากเป็นตั้งแต่เด็ก โชคดี “เมแกน มาร์เคิล”