เช็คแล้วแต่ก็พลาด..."จุ๋ย"พร้อมให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่

2018-04-28 11:00:18

เช็คแล้วแต่ก็พลาด..."จุ๋ย"พร้อมให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่

Advertisement

เป็น 1 ใน 59 คนบันเทิงที่มีชื่อเข้าไปรีวิวสินค้าให้กับแบรนด์เมจิกสกินสำหรับสาว"จุ๋ย-วรัทยา นิลคูหา" หลังสินค้าดังกล่าวโดนจับคดีสวมอย.ปลอมจนเป็นข่าวดังอยู่ในขณะนี้ ล่าสุดสาวจุ๋ยได้เดินทางมาร่วมงานเปิดตัวแคมเปญ"อีฟแอนด์บอยไทยแลนด์" เจ้าตัวได้ชี้แจงถึงประเด็นข่าวร้อนนี้ว่า



เรื่องนี้จริงๆ ต้องขอโทษทุกคนอย่างมาก ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาแน่นอน รู้สึกเสียใจและตกใจด้วย แต่ตนเป็นคนแรกที่รับรู้เรื่องนี้มาเมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้ว ตอนนั้นก็รีบหาข้อมูลจากคนที่มีความรู้ รวมถึงข้อมูลจากเพจที่เขาแจ้งมา จากนั้นก็ติดต่อไปจนได้ข้อมูลความจริงกลับมาจึงได้โพสต์เตือนไปแล้วตั้งแต่เมื่อ 2 เดือนที่แล้วทางเพจส่วนตัวของตัวเองว่าได้รับแจ้งมาว่าสินค้านี้ไม่ปลอดภัย ดังนั้นไม่สนับสนุนหรืออะไรทั้งสิ้น ให้ดูดีๆ ศึกษาก่อน แต่ ณ ตอนนั้นจุ๋ยพูดได้เท่าที่จะพูดได้ ก่อนที่เรื่องจะมาถึงตอนนี้มันมีกระบวนการอะไรมากมาย ซึ่งเรื่องมันใหญ่กว่าที่รับรู้ ณ ตอนนั้นมากๆ ส่วนตัวจุ๋ยได้พูดคุยกับพุฒด้วยเช่นกัน รีบเช็คทุกอย่างและดำเนินการด้วยตัวเอง ไม่ได้ปล่อยให้ผู้จัดการส่วนตัวดำเนินการให้ อยากจัดการด้วยตัวเองเพื่อที่จะสอบถาม เพราะฉะนั้นพอมีข่าวเกิดขึ้นมาในตอนนี้ จึงตกใจมากๆ ในตอนนั้นจุ๋ยคิดว่าถึงแม้จะมีคนเสียหายแค่ 1-2 คน จุ๋ยก็ไม่พึงประสงค์ที่จะสนับสนุนอะไรกับแบรนด์นี้เลย อีกอย่างจุ๋ยเป็นคนท้ายๆ ที่รีวิวด้วยซ้ำ น่าจะก่อนมีข่าวประมาณครึ่งเดือน แล้วมันถึงดีลให้ลบรีวิวพอดี

คิดว่าครั้งนี้เราพลาดไหม?



จริงๆ จุ๋ยมีการตรวจสอบก่อนรับรีวิวสินค้า แต่มันก็เกิดความผิดพลาดจนได้ นั่นเพราะการตรวจสอบยังไม่เพียงพอ หลังจากนี้ทำให้คิดว่าจะเชื่อถือระบบทุกอย่างที่เคยเข้าใจไม่ได้ เนื่องจากสิ่งที่เห็นไม่ว่าจะเป็นป้ายโฆษณาข้างรถเมล์ ป้ายบิลล์บอร์ดระหว่างทางกลับบ้าน ซึ่งการจะขึ้นโฆษณาได้ตามความรู้ของจุ๋ยคือจะต้องมีการขอ ฆอ. หมายความว่าทุกขั้นตอนมีระเบียบของเขาอยู่ เท่ากับว่าจะมีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง ดังนั้นก็จะเห็นว่าแบรนด์ต่างๆ ที่ขึ้นตามบิลล์บอร์ดหรือรถเมล์เป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือทั้งนั้น พอเกิดกรณีนี้ขึ้นมามันเกินความคาดหมายของจุ๋ยจริงๆ และรู้สึกไม่สบายใจมากๆ แต่สิ่งที่คิดคือทำยังไงจะแก้ไขในตอนนั้นถึงเลือกจะเข้าไปสอบถามคนที่มีข้อมูล จุ๋ยได้เริ่มทำตั้งแต่ตอนนั้นซึ่งยังไม่มีกระแสอะไรขึ้นมาเลย เท่าที่คุยกับพุฒก็คืออยากนำที่เป็นค่าจ้างรับรีวิวของแบรนด์นั้นเอาไปบริจาคต่อ ซึ่งจุ๋ยได้ทำแล้วก่อนที่จะเป็นกระแส โดยเอาไปบริจาคเพื่อซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์จะได้เป็นประโยชน์ทางสาธารณะและคนอื่นต่อไป ตั้งแต่แรกเราก็คุยกัน หาขอแก้ไขร่วมกัน แต่จุ๋ยเป็นตัวกลางที่จะไปคุยและหาข้อมูล บอกพุฒให้มาร่วมทำบุญ เพราะไม่มีใครสบายใจ ไม่มีใครนอนหลับอย่างสนิทใจ




ก่อนหน้านี้มีใครทักท้วงเราเรื่องนี้มาบ้าง?



เพจทางสังคมเพจหนึ่งที่เขาดูแล รับแจ้งเรื่องนี้จากประชาชน คือ เขาไม่ได้มาแจ้งเราแต่เราเห็นเลยติดต่อเขาไปพอได้ข้อมูลเลยแก้ไข

คิดยังไงที่สังคมมองว่าดาราหลอกลวงประชาชน?
ส่วนตัวจุ๋ยกินจริงๆ แต่เขาให้มาแค่ชุดเดียว ดังนั้นเราจะไม่ได้กินต่อเนื่อง มันน่าแปลกมาก ๆ ที่เราคีย์ข้อมูลไปแล้วขึ้นว่าได้รับอนุญาต

เรื่องนี้ทำให้กระทบธุรกิจเราไหม?
พุฒทำเสื้อผ้าไม่น่ากระทบอะไร ส่วนจุ๋ยเป็นสกินแคร์ เราคุยกับพุฒเลยหาข้อแก้ไขร่วมกัน



เรามีเตือนเพื่อนๆ ในวงการก่อนหน้านี้บ้างไหม?
มีเพจเขาบอกว่าพี่สามารถกระจายให้คนอื่นรู้ได้ไหม จุ๋ยก็ให้ผู้จัดการส่งไปบอกผู้จัดการหลายๆท่านว่ามันมีเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมา



เตรียมความพร้อมเข้าไปพบเจ้าหน้าที่ยังไงบ้าง?
ยินดีให้ข้อมูลเต็มที่ จุ๋ยว่ามาถึงจุดนี้แล้ว รายละเอียดอื่นๆ ขอไปให้รายละเอียดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่สิ่งที่อยากจะพูดออกไปคือ ตอนนึ้เราเชื่ออะไรไม่ได้เลย ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ระบบที่เราคิดว่าปลอดภัย100% มันไม่ใช่ ทุกคนต้องร่วมมือกัน แต่สำหรับจุ๋ยกับพุฒ เราสองคนรู้สึกว่าเราผิดพลาดแล้ว เราก็ต้องร่วมแก้ไข และทำให้ถูกต้อง คนเราผิดพลาดกันได้ แต่ผิดพลาดแล้วพร้อมที่จะแก้ไขหรือเปล่า สิ่งที่อยากจะให้ช่วยกันคือแก้ที่ต้นเหตุด้วย ไม่ใช่ที่ปลายเหตุอย่างเดียว ต้องแก้ตั้งแต่ต้น กลาง และปลายเหตุทุกส่วนต้องพร้อมใจ จะมาโทษว่าเป็นความผิดของใครฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ถูกต้อง เพราะหลายส่วนเกี่ยวข้องกันหมด ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์นี้ พอเรารับรู้ว่าเกิดเหตุการณ์นี้เราก็ตกใจ เพราะเราก็เป็นห่วงพี่น้องประชาชน รวมถึงตัวเราด้วย ตอนนี้จุ๋ยถือว่าเป็นผู้เสียหาย เสียหายทางชื่อเสียง



ถ้าต้องรับงานรีวิวอีกต่อไปต้องทำอย่างไรบ้าง?
หลังจากนี้คงต้องดูเยอะขึ้น พวกเรานักแสดงศิลปินเราทำงานเยอะขึ้น อยากให้เข้าใจว่ามันไม่ได้แล้วจริงๆ ต้องมีเอกสาร มีช่องทางการขายที่ถูกต้อง อย่างอันนี้เขาก็มีเอกสาร เอกสารปลอมในปลอม สวมในสวม มันไม่สามารถรู้ได้จริงๆ คิดว่าตัวเองเป็นคนละเอียดพอ และตรวจสอบเหมือนกัน ตอนนี้ก็ยังมีคนมาติดต่อให้รีวิวสินค้า แต่ถ้าเป็นพวกอาหารเสริมไม่รับเลย แต่ถ้าเป็นของใช้ขอดูก่อน ดูวิธีการใช้เป็นอย่างไร ช่อทางการขายถูกต้องไหม มีเอกสารถูกต้องไหม อย่างแป้งต่างๆก็ดูเยอะค่ะ

หยุดรับรีวิวสินค้าประเภทอาหารเสริมไปเลยไหม?
ตอนนี้ทุกคนคงขยาดหมดแล้ว คงกลัวกันมากๆ เบรคก่อน อยากให้ทุกคนร่วมมือกัน ตอนนี้เรื่องมันไกลมาถึงจุดนี้แล้ว มันเกี่ยวกับความปลอดภัยของทุกคน ไม่ใช่ใครคนใดคนนึง นักแสดงก็เป็นเรื่องการปลอดภัยในเรื่องชื่อเสียงของตัวเอง ข่าวนี้ออกมาสร้างความสั่นสะเทือนให้กับหลายๆคนที่กินอะไรพวกนี้ที่ดูแลตัวเอง