หนุ่มชัยภูมิหนีภัยสงครามจากต่างแดนนำความรู้จากนายจ้างกลับมาพลิกสวนมันสำประหลังปลูกองุ่นขายรายได้งาม
นายอนันต์ โชติพรมราช อายุ 37 ปี เกษตรกรบ้านหนองใหญ่ ต.ซับใหญ่ อ.ซับใหญ่ จ.ชัยภูมิ กล่าวว่า ไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล มีสัญญา 5 ปี แต่ทำงานได้ 3 ปี ต้องเจอภาวะสงครามสู้รบกันในอิสราเอลต่อเนื่อง อยู่ไม่ได้ เกรงว่าจะไม่มีโอกาสได้เจอครอบครัว จึงแอบจดจำวิชาความรู้จากนายจ้างที่ต่างแดนกลับเมืองไทย ก่อนจะพาครอบครัว พลิกสวนมันสำประหลังบางส่วนทำ "สวนองุ่นตาศักดิ์" ใช้เวลาปลูกประมาณ 1 ปี สามารถเก็บผลผลิตขายในชุมชนและทางออนไลน์รายได้งาม ตัดครั้งแรกลูกค้าแห่ซื้อและสั่งจองจนไม่พอขาย มีรายได้เฉลี่ย 1 งานขายองุ่นได้ 1 แสนบาท
นอกจากนี้ ทาง อ.ซับใหญ่เตรียมส่งเสริมเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร หรือแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตรเกี่ยวกับผลไม้เมืองร้อนแห่งเดี่ยวของจังหวัดที่ทำได้จริงและเจ้าของสวนยินดีให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเที่ยวชมสวนและเดินตัดหรือซื้อองุ่นแบบสดๆที่สวนได้เลยโดยไม่หวงวิชาความรู้
สำหรับการปลูกองุ่นซึ่งสวนใหญ่มักจะปลูกกันในที่ที่มีสภาพอากาศที่เย็น แต่ใครจะคิดว่าที่ จ.ชัยภูมิซึ่งเป็นพื้นที่ไร่นา แถมยังมีสภาพอากาศที่ร้อน แต่สามารถปลูกองุ่นให้ผลผลิตที่ดี มีคุณภาพ ลูกดก รสชาติดี ขายได้ราคา
นายอนันต์ บอกว่า ได้ปรับพื้นที่ที่เคยปลูกมันสำประหลัง 3 ไร่มาปลูกองุ่น จำนวน 4 สายพันธุ์ คือ 1. ไวท์มะละกา 2.แบล็คโอปอล 3. สกาลอคต้า 4. สวีทแซฟไฟร์ ปัจจุบัน สามารถเก็บผลิตได้แล้ว 2 ไร่และอีก 1 ไร่ อยู่ระหว่างบำรุงรักษาดูแล ซึ่งราคาขายเริ่มตั้งแต่ กก.ละ 100-250 บาท มีรายได้เฉลี่ย 1 แสนบาท ต่อ 1 งานในการเก็บผลผลิตขององุ่นขายต่อปี เมื่อเที่ยบกับการทำสวนอย่างอื่นถือว่าเป็นรายได้ที่ดีสามารถเลี้ยงครอบครัวได้ดีพอสมควร เพราะลงทุนครั้งเดียว จากนั้นก็ดูแลให้น้ำบำรุงรักษาให้ดี รอเก็บผลผลิตแบบต่อเนื่องไปเลย สำหรับท่านใดสนใจและจะมาชิมองุ่นแบบสดและชมสวนถ่ายภาพเช็กอินโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สามารถติดต่อสอบถามทางเพจ สวนองุ่นตาศักดิ์ โทรสัพท์ 084-3915748
ด้าน นายนายณัฐพศุตม์ โชติจิรศิริกุล นายอำเภอซับใหญ่ กล่าวว่า สวนองุ่นตาศักดิ์ ถือเป็นสวนแรกของจังหวัด สามารถปลูกในพื้นที่ที่มีอากาศร้อน แต่ได้ผลผลิตดี มีความสวยงามอุดมสมบูรณ์ แถมมีรสชาติที่ดีอีกด้วย ถือเป็นเกษตรกรต้นแบบของอำเภอช่วยให้เกษตรกรรายอื่น ๆได้มาศึกษาเรียนรู้และนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อไป สำหรับสวนองุ่นตาศักดิ์แห่งนี้ถือเป็นแหล่งเรียนรู้ประจำอำเภอที่ใคร ๆ ก็ให้ความสนใจ เดินทางมาศึกษาได้สะดวกเพราะทางเจ้าของสวนยินดีให้ความรู้แก่เกษตรกรที่จะเดินทางมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อนำไปต่อยอดทางการเกษตรโดยไม่เสียค่าใช่จ่าย
