รอง ผกก.เปิดใจโดนสาวเมาซิ่งถีบหน้า แถมลูกน้องโดนด่า "ชั้นต่ำ"

2024-04-26 15:17:44

  รอง ผกก.เปิดใจโดนสาวเมาซิ่งถีบหน้า แถมลูกน้องโดนด่า "ชั้นต่ำ"

Advertisement

 รอง ผกก.เปิดใจโดนสาวอดีตผู้บริหารบริษัทดังเมาซิ่งถีบหน้า แถมลูกน้องโดนด่า "ชั้นต่ำ"  เบื้องต้นแจ้ง 3 ข้อหาหนัก

เมื่อวันที่ 26 เม.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 23 เม.ย. 67  ขณะที่ พ.ต.ท.ดาราธร ขจรศิลป์ รอง ผกก.5 บก.จร. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.จร.  ตั้งจุดตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์และกวดขันวินัยจราจร บริเวณฝั่งตรงข้ามมัสยิด ถนนเลียบมอเตอร์เวย์ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กทม. ได้มี  น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 51 ปี อดีตผู้บริหารบริษัทระดับโลกแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ขับขี่ เข้ามายังจุดตรวจ จากนั้นเมื่อเจ้าหน้าที่ทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ปรากฏวัดได้ 104 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์เกินกว่ากฎหมายกำหนด จึงได้แจ้งสิทธิและแจ้งข้อกล่าวหา โดยขณะควบคุมนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนที่ สน.ประเวศ น.ส.เอ  ได้ขัดขืน พร้อมทั้งด่าทอเจ้าหน้าที่  ใช้เท้าถีบเข้าบริเวณใบหน้าของ พ.ต.ท.ดาราธร  1 ครั้ง 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 เม.ย. 67  ที่กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) พ.ต.ท.ดาราธร ขจรศิลป์ รอง ผกก.5 บก.จร.  กล่าวว่า วันเกิดเหตุนั้นตำรวจได้ขอความร่วมมือให้ผู้ต้องหาเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ ซึ่งพบว่ามีปริมาณเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด คือ 104 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จากนั้นได้เชิญมาแจ้งสิทธิ และแจ้งข้อกล่าวหา  ผู้ต้องหาได้ขัดขืนไม่ยอมให้ดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งระหว่างที่จะนำตัวไปส่งพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ ได้ให้ขึ้นรถกระบะตำรวจด้านหลังแค็บของรถกระบะ  ระหว่างที่ตนเอื้อมมือไปปิดประตูนั้น หันหน้ากลับมาก็เจอผู้ต้องหาใช้รองเท้าถีบเข้ามาที่บริเวณแก้มขวา แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บเนื่องจากใส่หมวกกันน็อก  จึงรวบขาไม่ให้ดิ้นรนขัดขืน 

พ.ต.ท.ดาราธร กล่าวต่อว่า เมื่อมาถึง สน.ประเวศ ผู้ต้องหาได้อยู่กับลูกน้องของตนและด่าทอเจ้าหน้าที่ว่า "อีชั้นต่ำ" ซึ่งคำพูดนี้กระทบจิตใจรวมถึงความรู้สึกของลูกน้องอย่างมาก อย่างไรก็ตามขอฝากเตือนประชาชนว่า เมาอย่าขับ เพราะสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุอันดับหนึ่งมาจากเมาแล้วขับ 

พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ รอง ผบก.จร. กล่าวว่า  กรณีนี้ตำรวจทำตามขั้นตอนการจับกุมทุกอย่าง ไม่ได้มีการใช้กำลังรุนแรงเกินกว่าเหตุแต่อย่างใด และที่ไม่ได้ใช้กุญแจมือพันธนาการเพราะเป็นผู้หญิง  แต่ก็ถูกกระทำดังกล่าว  นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาเคยถูกดำเนินคดีข้อหาเมาแล้วขับเมื่อปี 65   ซึ่งครั้งนั้นศาลได้พิพากษาลงโทษ โดยให้รอลงอาญา 2 ปี จนกระทั่งมาก่อเหตุในครั้งนี้อีก ซึ่งยังอยู่ในห้วงเวลาที่ศาลให้รอลงอาญา

ทั้งนี้มีการแจ้งข้อกล่าวหา 3 ข้อ  คือเมาแล้วขับ ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และทำลายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ส่วนข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ขณะนี้อยู่ระหว่างการแกะเสียงจากกล้องของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเข้าข่ายการดูหมิ่นหรือไม่และจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป