"วราวุธ" สั่ง จนท.ยึด พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กปม "น้องไนซ์เชื่อมจิต" (มีคลิป)

2024-04-25 15:06:42

"วราวุธ" สั่ง จนท.ยึด พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กปม  "น้องไนซ์เชื่อมจิต" (มีคลิป)

Advertisement

"วราวุธ" ขอบคุณ  "พวงเพ็ชร" กำชับ  พศ. ตรวจสอบปม "น้องไนซ์เชื่อมจิต" ย้ำ พม. ยึดดำเนินการตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก  กำชับ จนท. ทำงานรอบคอบตามกรอบกฎหมาย เหตุเป็นเรื่องละเอียดอ่อน

เมื่อวันที่ 25 เม.ย.67 ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)  นายวราวุธ ศิลปอาชา  รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  ให้สัมภาษณ์กรณีความคืบหน้า  พม. กับ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ. ) ดำเนินการตรวจสอบเรื่อง "น้องไนซ์ เชื่อมจิต"  ว่า ต้องขอขอบคุณทางนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ได้ประสานงานและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีกับทาง  พม. ตนมั่นใจว่าการทำงานร่วมกันในลักษณะนี้เราจะสามารถแก้ไขและความกระจ่างให้กับสังคมได้ด้วยดี

นายวราวุธ กล่าวต่อว่า กรณีที่มีข่าวเรื่องของน้องไนซ์ และสิ่งที่สังคมกำลังมีข้อถกเถียงกันนั้น มิติที่ พม.ให้ความสำคัญจะเกี่ยวข้องกับตัวของน้องไนซ์โดยตรง ว่าการดูแลตัวน้อง สวัสดิภาพทั้งกายและใจ ได้รับการดูแลมีพัฒนาการต่างๆ ที่เด็กคนหนึ่งเพิ่งจะได้นั้น ได้รับการดูแล และสิทธิต่างๆที่พึงได้นั้นมีครบถ้วนหรือไม่ เช่น ได้รับการศึกษา ได้รับการดูแลให้มีพัฒนาการอย่างถูกต้องตามช่วงวัยต่างๆ ไม่ได้มีการทำร้าย บังคับจิตใจ หลอกลวงอะไรต่างๆนั้น ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่กำลังรวบรวมข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ หรือแม้แต่ข้อมูลคลิป ที่ปรากฏอยู่ในสื่อต่างๆ เพื่อส่งให้กับนักจิตวิทยา ที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี และอีกส่วนหนึ่งจะส่งข้อมูลนั้นไปยัง สถาบันสุขภาพจิตเด็ก กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งต้องขอความร่วมมือจากทุกหน่วยงานในการที่ เบื้องต้นประเมินก่อนว่าในประเด็นทางด้านจิตใจนั้นมีปัญหาอะไรหรือไม่ ถ้าไม่มีปัญหาทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี หรือเรียกได้ว่ามีสุขภาพดีทั้งกายและใจ ก็ต้องมาดูองค์ประกอบ รอบๆตัวของน้องไนซ์อีกครั้งหนึ่งว่ามีประเด็นใดที่เราจะต้องไขความกระจ่างให้กับสังคมได้บ้าง แต่สิ่งที่สำคัญและต้องเน้นย้ำที่สุด คือการดูแล ปกป้องสิทธิของเด็กคนหนึ่ง และที่สำคัญคงต้องขอความร่วมมือจากผู้หลักผู้ใหญ่ทุกๆคน ในการให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ  พม. กระทรวงสาธารณสุข  พศ.และหน่วยงานต่างๆ เพราะต้องเรียนว่าเราไม่ได้มีเจตนาเข้าไปจับผิด หรือจะไปดำเนินเรื่องอะไร แต่เราต้องการไขความกระจ่าง ต้องการดูแลปกป้องสิทธิเด็ก ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และไขข้อกังขาที่สังคม และหลายๆฝ่ายนั้นมีข้อถกเถียงมีข้อสงสัยกัน และที่สำคัญคือกระทรวง พม.เรา ให้ความสำคัญกับเรื่องของการพัฒนาและปกป้องสิทธิเด็กและเยาวชน

ผู้สื่อข่าวถามว่าในส่วนของ  พม. ยึดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กพ.ศ. 2546 เพื่อดูแลเรื่องดังกล่าวนี้อย่างไร นายวราวุธ กล่าวว่า การที่จะใช้มาตรการต่างๆตามพรบ.คุ้มครองเด็กพ.ศ. 2546 นั้น ต้องดูกันในหลายมิติ ก่อนอื่นจะต้องประเมินสภาพจิตใจของตัวน้องก่อนว่า สหวิชาชีพ หรือนักจิตวิทยาประเมินออกมาแล้วเป็นอย่างไร เมื่อได้ผลออกมาแล้วทางกระทรวง พม. จะประสานกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในการดำเนินการตามกฎหมายต่อไปในแต่ละพื้นที่ เพราะในการทำงานนั้นทาง  พม. ไม่สามารถใช้กฎหมายแล้วดำเนินการด้วยตัวเองได้ จะต้องประสานงานหน่วยงานในพื้นที่ ฝ่ายปกครอง ผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าหน้าที่ต่างๆ

ผู้สื่อข่าวถามถึง กรณีที่สังคมมีความใจร้อนต้องการคำตอบเรื่องนี้ นายวราวุธ กล่าวว่า เรื่องที่เกี่ยวข้องกับจิตใจคน เป็นเรื่องที่ค่อนข้าง ละเอียดอ่อน ตนเองได้ย้ำกับเจ้าหน้าที่ของ พม.ทุกๆคนว่าในการดำเนินงานหากข้อมูลยังไม่ครบอย่าเพิ่งผลีผลาม ตัดสินใจหรือให้สัมภาษณ์สิ่งใดเพราะถ้าเราพูดออกไปแล้ว และภายหลังเกิดความจริงไม่ตรงกับสิ่งที่เราพูด ก็จะเป็นสิ่งไม่ดีกับเจ้าหน้าที่ของเรา ดังนั้น ช้าแต่ว่ามั่นใจ น่าจะปลอดภัยมากกว่าทำเร็วและพลาดในตัวสารัตถะ ที่สำคัญไป

นายวราวุธ กล่าวว่า ขอย้ำการทำงานของเพื่อนๆ เจ้าหน้าที่ที่อยู่ในพื้นที่ การจะดำเนินการตามมาตรการใดก็แล้วแต่ ขอให้ยึดกฎระเบียบข้อบังคับ และกฎหมายทุกเรื่องให้ชัดเจน หากยังมีความกังขาอยู่ก็อย่าเพิ่งผลีผลาม ไม่เช่นนั้นการทำไปหากขาดกฎและระเบียบ ปัญหาจะกลับมาอยู่ที่เจ้าหน้าที่ผู้ดำเนินการเสียเอง ขอให้ศึกษากฎระเบียบต่างๆและกฎหมายแต่ละมาตราให้ละเอียดถี่ถ้วน ครบองค์ประกอบของแต่ละมาตราหรือไม่ หากยังขาดหรือมีโอกาสที่การดำเนินการไปแล้วจะเกิดความผิดพลาด ก็ขอให้ใช้ความรอบคอบ และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในหลายๆฝ่าย เพราะถ้าดำเนินการไปแล้วไม่ถูกต้อง ก็จะเป็นปัญหากับหน่วยงานในภายหลังได้