"สุดาวรรณ"เปิดตัวเลขรายได้ท่องเที่ยวระหว่าง 1-21 เม.ย.67 ทะลุ 1.4 แสนล้าน ต่างชาติเข้ามา 1.92 ล้านคน เพิ่มขึ้น 37.54% ชี้ไทยได้ประกาศให้ทั่วโลกรับรู้ว่ามีการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ที่เป็น World Class Event เผย 10 ชาติที่เข้ามามากที่สุด จีนอันดับ 1 จำนวน 395,830 คน เพิ่มขึ้น 89.16%
เมื่อวันที่ 23 เม.ย.67 น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา ได้สรุปข้อมูลล่าสุดของการท่องเที่ยวของชาวไทยและชาวต่างชาติในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่วันที่ 1- 21 เม.ย.67 สามารถสร้างรายได้รวม 140,335 ล้านบาท สูงกว่าการประเมินก่อนหน้านี้ที่มีแนวโน้มว่า ในช่วง 21 วันดังกล่าวจะสร้างรายได้รวม 132,000 ล้านบาท โดยในช่วงดังกล่าวมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในไทยอย่างคึกคัก ขณะที่คนไทยก็ออกเดินทางท่องเที่ยวและออกมาเล่นน้ำสงกรานต์กันอย่างสนุกสนาน เนื่องจากมีการจัดกิจกรรมทั่วประเทศ
"การจัดงาน Maha Songkran World Water Festival 2024 เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567 ที่ท้องสนามหลวง มีภาพออกมาอย่างยิ่งใหญ่ของการรวมตัวของคนที่มาร่วมกิจกรรมจำนวนมากกว่าที่คาด มีฉากหลังของพระบรมมหาราชวังที่วิจิตรสวยงาม และมีภาพที่สื่อสารไปทั่วโลก จึงกลายเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และเป็นการประกาศตัวให้ทั่วโลกรับรู้อย่างเป็นทางการว่าประเทศไทยมีเทศกาลสงกรานต์ที่เป็น World Class Event สมกับที่ยูเนสโก้ ประกาศขึ้นทะเบียนประเพณีสงกรานต์ เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ เฉพาะงานนี้มีนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติมาร่วมทั้งสิ้น 784,883 คน ซึ่งคนที่มาพึงพอใจในการร่วมงานในระดับมากที่สุด และอยากให้มีการจัดอีกมากที่สุด เฉพาะงานนี้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจ 2,886.82 ล้านบาท มีความคุ้มค่า 30.72 เท่าของงบประมาณที่ใช้ไป"น.ส.สุดาวรรณ กล่าว
รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวอีกว่า ตลอด 21 วัน ของวันที่ 1-21 เม.ย.67 มีชาวต่างชาติเที่ยวไทย 1,926,443 คน สร้างรายได้ 90,208 ล้านบาท ขณะที่คนไทยเดินทางท่องเที่ยว 13,897,988 คน-ครั้ง สร้างรายได้ 50,127 ล้านบาท และถ้าเจาะดูข้อมูล ตั้งแต่วันที่ 12 - 16 เม.ย.67 มีชาวต่างชาติเที่ยวไทย 461,509 คน สร้างรายได้ 21,546 ล้านบาท คนไทยเที่ยวไทย 4,337,848 คน-ครั้ง สร้างรายได้ 16,488 ล้านบาท รวมรายได้ 38,034 ล้านบาท
ทั้งนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 1,926,443 คน คิดเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้น 37.54% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากรัฐบาลได้มีมาตรการอำนวยความสะดวกในการเดินทาง หรือ Ease of traveling ได้แก่ การยกเว้นวีซ่า และการยกเลิกบัตร ตม.6 ตลอดจนการจัดกิจกรรมอย่างยิ่งใหญ่ โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นมาจากตลาดระยะใกล้และตลาดระยะไกล เมื่อพิจารณาจาก 10 อับดับแรกที่เข้ามาเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พบว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ
โดยนักท่องเที่ยวจากจีน นำมาเป็นอันดับหนึ่ง 395,830 คน เพิ่มขึ้น 89.16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อันดับ 2 มาเลเซีย 298,263 คน เพิ่มขึ้น 41.62% อันดับ 3 อินเดีย 114,330 คน เพิ่มขึ้น 27.53% อันดับ 4 รัสเซีย 104,538 คน เพิ่มขึ้น 19.61% อันดับ 5 เกาหลีใต้ 84,539 คน เพิ่มขึ้น 36.02% อันดับ 6 ลาว 66,396 คน เพิ่มขึ้น 43.59% อันดับ7 สหราชอาณาจักร 60,495 คนเพิ่มขึ้น 11.31% อันดับ 8 ไต้หวัน 60,153 คน เพิ่มขึ้น 58.74% อันดับ 9 สหรัฐอเมริกา 56,068 คน เพิ่มขึ้น 10.43% และอับดับ 10 อินโดนีเซีย 55,969 คน เพิ่มขึ้น 64.52%
สำหรับรายได้รวมที่เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 140,335 ล้านบาท แบ่งออกเป็น ค่าที่พัก 42,069 ล้านบาท ค่าอาหาร เครื่องดื่ม 33,069 ล้านบาท ค่าซื้อสินค้า ของที่ระลึก 26,839 ล้านบาท ค่าเดินทาง 15,505 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายบันเทิง 14,758 ล้านบาท ค่าบริการท่องเที่ยว 5,865 ล้านบาท และอื่นๆ 2,230 ล้านบาท