"หญิงหน่อย"คุยพ่อค้าแม่ค้าตลาดบุรีรัมย์ ขอรัฐบาลแจกเงินสด 1 หมื่น

2024-04-23 10:41:20

"หญิงหน่อย"คุยพ่อค้าแม่ค้าตลาดบุรีรัมย์ ขอรัฐบาลแจกเงินสด 1 หมื่น

Advertisement

"หญิงหน่อย"คุยพ่อค้าแม่ค้าตลาดบุรีรัมย์ ขอรัฐบาลแจกเงินสด 1 หมื่นบาท สามารถจับจ่ายสินค้าจากพ่อค้าแม่ค้าระดับรากหญ้าได้จริง  

เมื่อช่วงเย็นวันที่ 22 เม.ย.67 ที่ผ่านมา  คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่พูดคุยกับพ่อค้าแม่ขาย ที่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ โดยได้สอบถามถึงสภาพการค้าขายในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งพบว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ตลาดที่เคยคึกคัก กลับมาอยู่ในสภาพเงียบเหงา ยอดค้าขาย รายวันลดลงกว่าครึ่ง เงินทุนไม่เพียงพอสำหรับใช้หมุนเวียนในแต่ละวัน ทำให้ผู้ค้าไม่น้อย ต้องพึ่งพาเงินกู้นอกระบบ


คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวด้วยว่า จากการพูดคุย ผู้ค้าภายในตลาดสะท้อนเป็นเสียงเดียวกันว่า โครงการของรัฐบาล ที่จะแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทนั้นอยากให้แจกเป็นเงินสด เพราะสามารถจับจ่ายสินค้า จากพ่อค้าแม่ค้าในระดับรากหญ้าได้ จะเกิดการหมุนเวียนลงไปถึงคนระดับล่างอย่างแท้จริง จึงขอส่งเสียงไปถึงผู้มีอำนาจ ให้ทบทวน แนวคิดจากการแจกเป็นเงินดิจิทัล เป็นเงินสดแทน ที่สำคัญร้านค้าเกือบทั้งหมด ไม่กล้าเข้าร่วมโครงการ เนื่องจากกังวลเรื่องระบบภาษี หรือหากไม่ขึ้นทะเบียนในระบบภาษี ก็ต้องไปซื้อของต่อที่ร้านใหญ่ ที่อยู่ในระบบภาษี ซึ่งบางร้านไม่สะดวก และอีกไม่น้อยกังวลว่ากลุ่มผู้เปราะบางกลุ่มผู้สูงอายุ ที่ไม่ได้ใช้สมาร์ทโฟน จะต้องเจออุปสรรคในการเข้าถึงนโยบาย และเมื่อได้รับความไม่สะดวกจากเงื่อนไขต่างๆก็อาจจะเป็นปัญหาจนผลักกลุ่มคนที่มีสิทธิ์ได้รับเงินหลุดออกจากโครงการอีกมาก ซึ่งการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลวางเป้าหมาย ไว้อาจไม่ประสบผลสำเร็จ เป็นพายุหมุนทางเศรษฐกิจได้จริง เพราะไม่เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจตั้งแต่ในระดับรากหญ้า แต่คนที่จะได้ประโยชน์สูงสุด อาจเป็นเจ้าสัวเพียงไม่กี่ราย ที่มีร้านค้าปลีก อยู่ในทุกชุมชน

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวต่อว่า ผู้ค้าในตลาดยังสะท้อนด้วยว่า การเข้าถึงแหล่งทุน เพื่อนำเงินมาใช้หมุนเวียนในการค้าขาย เป็นเรื่องยาก จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาล พิจารณาแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของพรรคไทยสร้างไทย ที่ได้คิดค้น กองทุนเครดิตประชาชนขึ้นมา โดยประชาชนทุกคนมีเครดิตตั้งแต่ 10,000 บาทจนถึง 100,000 บาทเพื่อเป็นทุนตั้งตัวไปตลอดชีวิต โดยรัฐให้กู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยต่ำไม่เกินร้อยละ1ต่อเดือน ซึ่งนโยบายนี้จะทำให้คนยากจนเข้าถึงแหล่งทุนและสามารถสร้างอาชีพสร้างรายได้อย่างมั่นคงต่อเนื่อง เป็นหลักคิดที่ต่างจากนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000บาท ของรัฐบาล ที่ใช้เงินมหาศาลถึง 500,000 ล้านบาท และจะกลายเป็นภาระหนี้สินที่พี่น้องคนไทยต้องช่วยกันชดใช้ในอนาคต