"ชวลิต"เตือนรัฐบาลใช้เงิน ธ.ก.ส. แจกเงินหมื่นส่อผิดวัตถุประสงค์ซ้ำรอยแจก ส.ป.ก.4-01 คนรวย
เมื่อวันที่ 17 เม.ย.67 นายชวลิต วิชยสุทธิ์ แกนนำพรรคไทยสร้างไทย ในฐานะกรรมาธิการงบประมาณปี 2567 กล่าวถึงที่มาของงบประมาณ สำหรับใช้ในโครงการ เติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการกู้ยืมธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ว่า จากการจัดทำงบประมาณในปี 2567 ที่ผ่านมา ไม่มีการพิจารณาโครงการนี้ในชั้นกรรมาธิการแต่อย่างใด ซึ่งในหลักการตนเห็นด้วยกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ระบว่าต้องมีเงินสกุลหลักสกุลเดียว คือ เงินบาทโดยค่าของเงินบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะความน่าเชื่อถือหากค่าเงินของประเทศตกต่ำลง หายนะก็จะมาสู่ประเทศและคนไทยทุกคน ที่สำคัญชาวบ้านเห็นชัดเจนว่า ผู้ที่ได้ประโยชน์ในท้ายที่สุดจากโครงการนี้ คือห้างสะดวกซื้อซึ่งมีอยู่ทุกหัวระแหง ทุกหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด ทั่วประเทศ โดยเจ้าของร้านสะดวกซื้อ คือ มหาเศรษฐีอันด้บต้นๆ ของประเทศ เงินงบประมาณหลายแสนล้านบาท จาก 5 แสนล้านบาท ไม่ได้กระจายไปยังร้านเล็ก ร้านน้อย ตามหมู่บ้าน ตำบล แต่จะกระจุกตัวอยู่ที่เจ้าสัว เจ้าของร้านสะดวกซื้อ ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนก็จะยิ่งกว้างขึ้น
นายชวลิต กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ หากใครจำเรื่อง ส.ป.ก.4-01 ได้ เมื่อมีการออก ส.ป.ก.4-01 ให้กับผู้ที่ไม่ใช่เกษตรกร ก็เป็นเหตุให้รัฐบาลในยุคนั้นต้องล้มไป หรือแม้แต่ในรัฐบาลนี้ กรณีออก ส.ป.ก.4-01 ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ให้กับผู้ที่ไม่ใช่เกษตรกรก็ต้องเพิกถอน ส.ป.ก.4-01 ดังกล่าว และต้องออกตัวกันยกใหญ่อยู่ในขณะนี้ ดังนั้นการจะนำเงินจาก ธ.ก.ส. มาใช้ในโครงการนี้ ถ้าจับหลักการของ พ.ร.บ.ธ.ก.ส. ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเกษตรกรไม่ได้ ก็จะคล้ายๆ กับ ส.ป.ก.4-01 ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเกษตรกรผู้เกี่ยวข้องก็จะติดร่างแหกันไปหมด ตนได้ให้ความเห็นมาโดยไม่มีอคติใดๆ ยังให้กำลังใจทุกฝ่ายในการแก้ปัญหาเพื่อประชาชน แต่ถ้าเดินหน้า โดยไม่ฟังเสียงท้วงติง ถือว่าตนได้ทำหน้าที่ในฐานะคนไทยคนหนึ่งแล้ว