รัฐสภาสหรัฐลงมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว ยุติวิกฤตปิดหน่วยงานของรัฐบาลกลาง หรือชัตดาวน์ ไปจนถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ส่วนร่างกฎหมายงบประมาณฉบับถาวร รัฐสภาต้องผ่านความเห็นชอบร่วมกันก่อนกำหนดเส้นตาย 8 กุมภาพันธ์
วุฒิสมาชิกสหรัฐ ลงมติด้วยคะแนน 81-18 เสียง ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเมื่อวานนี้ ยุติการปิดหน่วยงานของรัฐบาลกลาง หรือชัตดาวน์ ได้ชั่วคราวจนถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ โดยร่างกฎหมายฉบับนี้ ถูกส่งไปให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ลงมติเห็นชอบ ซึ่งจากนั้นอีกไม่กี่ชั่วโมง สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ก็ลงมติ 266-150 เสียง เห็นชอบร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว ซึ่งรวมทั้งการขยายโครงการหลักประกันสุขภาพเด็ก หรือซีเอชไอพี (CHIP) ออกไปอีก 6 ปี แต่ไม่ได้คุ้มครองผู้อพยพเยาวชน หรือดรีมเมอร์ ตามที่พรรคเดโมแครตเรียกร้อง ขณะนี้ ร่างกฎหมายฉบับนี้จะถูกส่งให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมาย ปิดฉากวิกฤตชัตดาวน์ ที่ยืดเยื้อมา 3 วัน และหวังว่า รัฐสภาจะสามารถบรรลุข้อตกลงงบประมาณฉบับถาวรได้ก่อนกำหนดเส้นตายวันที่ 8 กุมภาพันธ์ และคาดว่า การเปิดหน่วยงานของรัฐบาลกลางปกติจะมีขึ้นในวันนี้
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า วิกฤตชัตดาวน์จะยุติลงแล้ว แต่การต่อสู้กันในเรื่องของผู้อพยพเยาวชน และงบประมาณ ยังมีอยู่ต่อไป
การลงมติเห็นชอบร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวครั้งนี้ มีขึ้นหลังมีการบรรลุข้อตกลงกันระหว่างนายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภา และนายมิทช์ แม็คคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมาก รับประกันว่าจะปกป้องโครงการ Deferred Action for Childhood Arrivals หรือดากา ซึ่งเป็นโครงการคุ้มครองผู้อพยพที่เป็นเยาวชน กว่า 700,000 คน ที่อพยพเข้าสหรัฐอย่างผิดกฎหมายพร้อมกับพ่อแม่ เพื่อให้พวกเขาได้เรียนหนังสือ ทำงานและอยู่อาศัยในสหรัฐต่อไป โดยไม่ถูกเนรเทศ ซึ่งเป็นโครงการที่ริเริ่มในรัฐบาลประธานาธิบดีบารัค โอบามา แต่ทรัมป์ลงนามคำสั่งยกเลิกโครงการนี้