"จุตพร"ลั่นไม่เคยทรยศย้ายขั้วสลับข้าง พร้อมชุมนุมเมื่อถึงเวลา ชี้ "อุ๊งอิ๊ง"มีสิทธิเป็นนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ
เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 65 ที่อาคารพีซทีวี ย่านรามอินทรา นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พร้อมคณะจัดงานรำลึกเหตุการณ์ครบรอบ 12 ปี การสลายการชุมนุม 19 พ.ค. 2553 พร้อมจัดพิธีสงฆ์ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับวีรชนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวโดยมีมวลชนเสื้อแดง ทยอยเข้าร่วมงาน
นายจตุพร กล่าวตอนหนึ่งว่า ไม่เคยทรยศย้ายขั้วสลับข้าง และไม่เชื่อ วันดีคืนดี คสช.จะมาคืนอำนาจให้กับพรรคเพื่อไทยเพราะการใช้สูตรหาร 100 คำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 93, 94 แต่หากใช้สูตรหาร 500 ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 ตีความขัดได้ทั้งหมด ในวันข้างหน้าเราไม่รู้ว่าสถานการณ์ประเทศจะเป็นอย่างไร แต่ขอให้ทราบไว้ว่าถ้าวันหนึ่งเราประเมินว่าสถานการณ์ประเทศมันไปไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเมืองทั้งภายในและภายนอก วันนั้นเราจะมีการนัดหมายกันอีก เรายังต้องต่อสู้ และคิดว่าอีกไม่นาน ท่านทั้งหลายต้องดูแลตัวเองให้พร้อม
นายจตุพร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง บุตรสาวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ว่า รัฐธรรมนูญระบุว่า บุคคลสัญชาติไทย อายุ 35 ขึ้นไปสามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ดังนั้นคุณอุ๊งอิ๊งมีสิทธิเป็นนายกฯ ได้เหมือนคนอื่น ตนไม่ได้วิตกกังวลอะไร เป็นสิทธิที่จะแข่งขันในสนามการเมือง เมื่อถามต่อว่า หากน.ส.แพทองธาร ได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี จะมีการยึดอำนาจ หรือต้องซ้ำรอยลี้ภัยไปยังต่างประเทศเหมือนนายทักษิณ หรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า บทเรียนมีไว้ให้แก้ ตนพูดเสมอว่าทุกฝ่ายมีสิ่งที่ถูกและผิด ไม่มีฝ่ายใดถูกเสมอ เมื่อมีบทเรียนต้องดูสาเหตุที่จะทำให้ไปสู่เหตุการณ์นั้น อย่าไปเปิดประตูให้กับการรัฐประหาร ทุกเหตุการณ์ย่อมมีบทเรียน อย่าไปติดกับดัก แต่ละบทเรียนมีไว้ให้แก้ไข ไม่ใช่ทำผิดพลาดซ้ำอีก