ฝ่ายค้านเล็งซักฟอกรัฐบาลพุ่งเป้า 6 ประเด็น จ่อยื่นสัปดาห์ที่ 3 เดือน มิ.ย.
เมื่อวันที่ 26 เม.ย. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการประชุมแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านว่า ที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้า พท. และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายภูมิธรรม เวชยชัย กรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พท. นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ คณะทำงานผู้นำฝ่ายค้าน นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้า พท. และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้า พท. นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายวิรัตน์ วรศสิริน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติ นายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง ตัวแทนพรรคเพื่อชาติ นายสุพจน์ อาวาส ตัวแทนพรรคประชาชาติ และนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการที่ประชุม ได้หารือถึงการเตรียมความพร้อมการเสนอญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 โดยที่ประชุมมีข้อสรุปร่วมกันในกรอบเนื้อหาการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นประเด็น ดังนี้ 1.เนื้อหามุ่งเน้นไปที่ความผิดพลาดล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดินของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม 2.จงใจฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญและกฏหมาย ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรม 3.การทุจริตต่อหน้าที่ เอื้อประโยชน์ให้แก่ตนเองและพวกพ้อง 4.ไม่ปฎิบัติตามนโยบายที่ได้แถลงต่อรัฐสภา 5.การละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน และ 6.การทำลายประชาธิปไตยและระบบรัฐสภา
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นร่วมกันว่า การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ เป็นการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ซึ่งขณะนี้แต่ละพรรคได้รวบรวมข้อมูลและเตรียมความพร้อมทั้งประเด็นการอภิปราย เอกสารและหลักฐานเรียบร้อยแล้ว โดยจะมีการยื่นญัตติให้เร็วที่สุด ซึ่งเวลาที่เหมาะสมคือ ภายหลังจากการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมืองและร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ผ่านการพิจารณาของรัฐสภา ในวาระที่ 3 แล้ว เนื่องจากเล็งเห็นความจำเป็นที่จะต้องมีกฏหมายสำหรับใช้ในการเลือกตั้งเมื่อพล.อ.ประยุทธ์ ตัดสินใจยุบสภาหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะหากการยุบสภาเกิดขึ้นก่อนที่กฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับจะแล้วเสร็จ อาจทำให้เกิดทางตันหรือเดดล็อกทางการเมือง อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมก็ได้มอบหมายให้นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรค พท. เป็นผู้ยกร่างญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้เพื่อนำเสนอที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อพิจารณาต่อไป
ด้านนายสุทิน กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายฯ เป็นรายบุคคล โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม เป็นจำเลยที่ 1 ส่วนรัฐมนตรีคนอื่นๆ จะมีใครถูกอภิปรายร่วมด้วยนั้น ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุป แต่ให้ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมกันก่อน ส่วนระยะเวลาการยื่นญัตติอภิปรายฯ จะดำเนินการภายหลังจากการพิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งทั้ง 2 ฉบับ ผ่านวาระ 2-3 แล้ว คาดว่ากฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับจะเข้าสู่การพิจารณาวาระ 2-3 ในสัปดาห์ที่ 2-3 ของเดือนมิ.ย. ดังนั้นการยื่นญัตติอภิปรายฯน่าจะเป็นช่วงหลังจากสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนมิ.ย.ไปแล้ว คาดว่าจะสามารถอภิปรายได้ประมาณช่วงต้นเดือน ก.ค.