"นิวยอร์ก" เสี่ยงโควิด-19 สูงสุดในสหรัฐฯ เซ่นพิษพันธุ์ย่อยลามหนัก

2022-04-20 09:40:41

"นิวยอร์ก" เสี่ยงโควิด-19 สูงสุดในสหรัฐฯ เซ่นพิษพันธุ์ย่อยลามหนัก

Advertisement

นิวยอร์ก, 19 เม.ย. (ซินหัว) — เมื่อวันอาทิตย์ (17 เม.ย.) หนังสือพิมพ์ไทม์ส ยูเนียน (Times Union) อ้างอิงข้อมูลล่าสุดจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ ซึ่งระบุว่ารัฐนิวยอร์กเป็นเพียงรัฐเดียวในสหรัฐฯ ที่มีหลายเทศมณฑลกำลังเผชิญความเสี่ยงสูงจากผลกระทบของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)

“ปัจจุบันมี 10 เทศมณฑลในรัฐนิวยอร์กที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งทั้งหมดอยู่ในย่านฟิงเกอร์ เลกส์, เซ็นทรัล นิวยอร์ก, นอร์ธ คันทรี และเซาธ์เทิร์น เทียร์” หนังสือพิมพ์ฯ ระบุ พร้อมเสริมว่าสถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะรัฐนิวยอร์กตรวจพบเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอน สายพันธุ์ย่อย 2 สายพันธุ์ ที่กำลังระบาดทั่วเซ็นทรัล นิวยอร์ก และพื้นที่โดยรอบ

รายงานเสริมว่ารัฐแคนซัสมีเพียงเทศมณฑลเดียวที่มีความเสี่ยงสูงต่อโรคโควิด-19 ขณะเกือบทุกเทศมณฑลในสหรัฐฯ มีความเสี่ยงต่อโรคโควิด-19 ระดับ “ต่ำ” นอกจากนั้นยังมีหลักฐานพบความเสี่ยงกำลังเพิ่มขึ้นทั่วภูมิภาคนิวอิงแลนด์ ด้านพื้นที่ส่วนใหญ่ของรัฐเมน นิวแฮมป์เชียร์ และเวอร์มอนต์ ถูกจัดเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อโรคโควิด-19 ระดับ “ปานกลาง”

บิสซิเนส อินไซเดอร์ (Business Insider) เว็บไซต์ข่าวสารการเงินของสหรัฐฯ รายงานว่าชาวอเมริกันหลายล้านคนที่ลาออกจากงานเมื่อปีก่อนวางแผนอยู่ห่างจากผู้คนอย่างไม่มีกำหนด ซึ่งส่งสัญญาณแนวโน้ม “เว้นระยะห่างทางสังคมในระยะยาว”

ผลวิจัยล่าสุดที่ดำเนินการศึกษาร่วมกันโดยมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด มหาวิทยาลัยชิคาโก และสถาบันเทคโนโลยีอิสระแห่งเม็กซิโก (ITAM) คาดการณ์ว่าผู้ที่ออกจากตลาดแรงงานและหลีกเลี่ยงการทำงานนอกบ้าน ซื้อของ หรือรับประทานอาหารข้างนอกในสหรัฐฯ มีจำนวนราว 3 ล้านคน

การศึกษาดังกล่าวดำเนินการสำรวจประชาชน 5,000 คน ตลอดระยะเวลา 12 เดือน และพบผู้ตอบแบบสอบถาม 1 ใน 4 ไม่ต้องการกลับไปทำกิจกรรมอย่างในยุคก่อนเกิดโรคระบาดใหญ่ โดยอ้างความกลัวเกี่ยวกับโรคระบาดใหญ่เป็นปัจจัยอันดับแรกหรืออันดับรอง

นอกจากนั้นผลการศึกษายังชี้ว่าตลาดแรงงานจะยังคงตึงตัวต่อไป ซึ่งจะสร้างแรงกดดันเพิ่มขึ้นต่อค่าจ้างและราคาสินค้าแม้อัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้น