"ชวน"ชี้ความเกรงใจผู้ใหญ่นำไปสู่การทุจริต

2022-04-18 17:21:36

"ชวน"ชี้ความเกรงใจผู้ใหญ่นำไปสู่การทุจริต

Advertisement

"ชวน"ลั่นประเทศรุ่งเรือง เมื่อบ้านเมืองสุจริต  ซัดความเกรงใจผู้ใหญ่นำไปสู่การทุจริต 

เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 65 ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการส่งเสริมการนำองค์ความรู้เกี่ยวกับบ้านเมืองสุจริต ไปประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 และบรรยาย หัวข้อ “บ้านเมืองสุจริต” ว่า ตนเข้ามาเป็นส.ส. ตั้งแต่ปี 2512 รวมระยะเวลา 16 สมัย ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองมาโดยตลอด ขณะนี้บ้านเมืองเรามีความเปลี่ยนแปลงไปในทางบวกอยู่มาก ตั้งแต่อดีตมีนักการเมืองที่มีวุฒิการศึกษาสูงเกิดขึ้นหลายท่าน ผู้คนมีความรู้และสายอาชีพหลากหลาย เข้ามาทำงานการเมือง แต่สิ่งที่ติดตามมาภายหลังคือโรคที่เกิดขึ้นจากการทุจริตเลือกตั้ง แนวโน้มของการซื้อสิทธิขายเสียงมีมากขึ้น ซึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา รัฐบาลเป็นเสียงข้างมาก ดังนั้น หากส.ส.มาจากระบบที่ใช้เงินทุจริต การบริหารบ้านเมืองจะไม่สามารถเป็นไปโดยสุจริตได้ เราจึงไม่ควรนิ่งดูดายปล่อยให้เกิดสถานการณ์นี้ แต่ควรมีส่วนร่วมสนับสนุนโครงการที่จะผลักดันให้เกิดความสุจริต รวมถึงโครงการการเมืองสุจริตที่ได้ริเริ่มมาแล้ว แต่การแก้ไขปัญหาทุจริตนั้นไม่ได้เริ่มที่วิกฤตการเมืองอย่างเดียวแต่ต้องแก้ไขในทุกระดับ จึงได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นโครงการบ้านเมืองสุจริต ซึ่งเน้นการรณรงค์ให้เกิดแนวปฏิบัติที่ถูกต้อง ไม่ได้จัดตั้งโครงการใหม่ใด ๆ ขึ้นมาให้สิ้นเปลืองงบประมาณและบุคลากร โดยปัจจุบันโครงการนี้ดำเนินไปได้ด้วยดีในหลายสถานศึกษา


นายชวน กล่าวต่อว่า สำหรับคำว่า "สุจริต" คือ ความประพฤติชอบ มีความคิดที่เป็นธรรม ไม่เอาเปรียบ ส่วนคำว่า "ทุจริต" ความหมายคือ ประพฤติชั่ว แบ่งเป็น 3 อย่าง คือ ประพฤติชั่วทางกาย คือ กายทุจริต ประพฤติชั่วทางใจ คือ มโนทุจริต ประพฤติชั่วทางวาจา คือ วจีทุจริต ทั้งนี้ เด็ก เยาวชน นักศึกษา หลายล้านคนทั่วประเทศที่อยู่ในระบบการศึกษา เป็นกำลังสำคัญยิ่งในอนาคตของบ้านเมือง การปลูกฝังความสุจริตให้คน แม้ทำสำเร็จเพียง 10 คน จาก 100 คน แต่คนเหล่านั้นอาจไต่เต้าขึ้นมาเป็นความก้าวหน้าทั้งในระดับล่างจนถึงปลัดกระทรวงและจะตั้งลูกน้องที่มีความสุจริตตามมา เพราะโครงการนี้ไม่ได้มุ่งหวังจะเสริมสร้างให้ทุกคนเป็นคนดีเหมือนกันทั้งหมด เพราะบ้านเมืองนั้นมีทั้งคนดีและไม่ดี แต่จะสร้างคนดีบางส่วน ซึ่งจะมีผลดีต่อทุกวงการ



นายชวน กล่าวว่า โครงการนี้ไม่จำเป็นต้องจัดตั้งหลักสูตรใหม่ หรือวิชาสุจริตมาให้เป็นภาระเพิ่มเติมของสถานศึกษา แต่ขอความร่วมมือให้อาจารย์ผู้สอนให้สอดแทรกเนื้อหาด้านความสุจริตไว้ในการสอนทุก ๆ สาขาวิชา เสมือนว่าทุกวิชาเป็นวิชาสุจริต เชื่อได้ว่าวิธีนี้จะสามารถปลูกฝังค่านิยมที่ดีในเยาวชนได้ เพราะโครงการบ้านเมืองสุจริต ไม่ได้ต้องการให้ตั้งองค์กรขึ้นมาใหม่ แต่ต้องการใช้องค์กรที่มีอยู่เดิม คือ สถาบันการศึกษาที่มีนักเรียนกว่า 7 ล้านคน นักศึกษากว่า 1.3 ล้านคน และมีนักเรียนที่เข้าโครงการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) จำนวน 6,215,161 คน โดยต้องการให้มีการประยุกต์หลักสูตรนี้เพื่อใช้ในการเรียนการสอน ส่งเสริมเรื่องการปลูกฝังจิตสำนึกเรื่องบ้านเมืองสุจริตเข้าไปในทุกรายวิชา หรือในทุกชั่วโมง เพื่อให้นักเรียน นักศึกษาที่จบมา มีภูมิคุ้มกันเรื่องบ้านเมืองสุจริต ที่จะทำให้บ้านเมืองของเราที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความเข้มแข็งปราศจากการทุจริต และทำให้ประเทศเจริญก้าวหน้า


นายชวน กล่าว ส่วนเรื่องการเป็นคนดี และการปฏิบัติตามกฎหมายนั้นได้มีบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 และ พ.ศ. 2560 มาตรา 3 วรรคสอง ระบุว่า “รัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐ ต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และหลักนิติธรรม เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวม” ซึ่งนักการเมืองมีหน้าที่ในการออกกฎหมาย โดยต้องยึดหลักธรรมาภิบาล หลักนิติธรรม หลักคุณธรรม หลักการมีส่วนร่วม หลักการตรวจสอบได้ และตนขอเพิ่มอีกหนึ่งหลักคือ หลักความไม่เกรงใจ เพราะความเกรงใจต่อผู้ใหญ่หรือผู้มีพระคุณอาจนำไปสู่การทุจริตได้ เพราะระบอบประชาธิปไตยจะดำรงอยู่ได้นั้น ทุกคนต้องเคารพสิทธิ เสรีภาพของผู้อื่น และมีหน้าที่ในการประพฤติตนให้เป็นคนดี ไม่เอาเปรียบหรือเบียดเบียนกัน ทำให้กฎหมายเกิดความศักดิ์สิทธิ์ โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเท่าเทียม ซึ่งการทุจริตเพียงเรื่องเดียวจะนำไปสู่การทุจริตอีกมากมายมหาศาล และประเทศจะรุ่งเรืองได้ก็ต่อเมื่อบ้านเมืองมีความสุจริต จึงขอฝากทุกคนว่า ประเทศรุ่งเรือง เมื่อบ้านเมืองสุจริต