ตร.พบเมาแล้วขับผู้หญิงถูกจับมากขึ้น

รอง ผบ.ตร.เผยสถิติเมาแล้วขับ พบมีสุภาพสตรีถูกจับมากขึ้น ชี้กรณีหนุ่มมิราจไม่ยอมเป่าเครื่องวัดแอลกอฮอล์ ศาลสั่งลงโทษจำคุก4 เดือน ปรับ 2 หมื่นบาท รับสารภาพลดโทษเหลือจำคุก 2 เดือน ปรับ 10,500 บาท 

เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษก ตร.) เปิดเผยว่า ศาลแขวงดอนเมืองพิพากษาสั่งลงโทษนายกรกฎ (ขอสงวนนามสกุล) หนุ่มเมาแล้วขับรถมิตซูบิชิ มิราจ ไม่ยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ ในความผิดฐานเมาแล้วขับ โทษจำคุก 4 เดือน ปรับ 2 หมื่นบาท และฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน สั่งปรับ 1,000 บาท แต่เนื่องจากนายกรกฎรับสารภาพจึงลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุกเป็นเวลา 2 เดือน ปรับ 10,500 บาท รอลงอาญา2 ปี และสั่งคุมประพฤตินายกรกฎเป็นเวลา 1 ปี รายงานตัว4ครั้ง บำเพ็ญประโยชน์ 24 ชั่วโมง ห้ามออกนอกเคหสถาน ตั้งแต่เวลา 22.00-04.00 น.เป็นเวลา15วัน นับตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. 2560 โดยเจ้าหน้าที่คุมประพฤติจะใช้กำไลข้อเท้า หรือ อุปกรณ์ติดตามตัวอิเลกทรอนิกส์ในการควบคุมติดตามตัว พร้อมทั้งพักใช้ใบขับขี่ 6 เดือน และเข้ารับการอบรมวินับจราจร1 ครั้ง

พล.ต.อ.วิระชัย ยังได้กล่าวถึงภาพรวมการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งเข้มสถานีตำรวจทั่วประเทศ โดยเน้นจับกุมผู้ขับขี่เมาแล้วขับ ซึ่งปีนี้สามารถจับกุมได้ 3,641 ราย มากกว่าปีที่แล้วที่จับกุมได้เพียง 2,011 ราย ส่วนอุบัติเหตุ 2 วันที่ผ่านมาเกิดขึ้น 1,053ครั้ง ลดลงจากปีที่แล้ว 151 ครั้ง ขณะที่ผู้บาดเจ็บ 1,107 ราย ลดลงจากปีที่แล้ว 192 ราย เสียชีวิต 92 ราย ลดลงจากปีที่แล้ว 21 ราย อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบสถิติคดีเมาแล้วขับ 2 วันที่ผ่านมา พบว่า สุภาพสตรีถูกจับกุมมากขึ้น โดยร้อยละ 30 จะเป็นผู้ที่เคยถูกจับกุมและดำเนินคดีมาแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งครั้งนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ส่งสำนวนคดีเพิ่มโทษในผู้ที่กระทำผิดซ้ำ