รมว.คมนาคมแถลงสถิติอุบัติเหตุทางถนน 28 ธ.ค.ที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุ 477 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 41 ราย ผู้บาดเจ็บ 500 คน กำชับจังหวัดเข้มข้นจัดตั้งจุดตรวจบนเส้นทางขาออกสู่ภูมิภาค เน้นกวดขันตามหลัก “4 ห้าม 2 ต้อง”
เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม แถลงว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ประจำปี 2561 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่ายได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 28 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันแรกของการรณรงค์ “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” ระหว่างวันที่ 28 ธ.ค.2560 - 3 ม.ค. 2561 พบว่า วันแรกเกิดอุบัติเหตุ 477 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 41 ราย ผู้บาดเจ็บ 500 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา ร้อยละ 42.77 ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 26 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 73.62 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 64.15 บนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 44.44 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 33.12 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01 – 20.00 น. ร้อยละ 30.40 ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน ร้อยละ 52.49 ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,008 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 64,275 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 559,639 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 89,277 ราย มีความผิดฐานไม่มีใบขับขี่ 25,628 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 25,329 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (23 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ศรีสะเกษ (6 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (25 คน)
นายอาคม กล่าวต่อว่า วันนี้ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ทำให้ปริมาณการจราจรบนเส้นทางสายหลักหนาแน่น ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ได้ประสานให้จังหวัดเข้มข้นการจัดตั้งจุดตรวจบนเส้นทางขาออกสู่ภูมิภาคต่างๆ มุ่งบังคับใช้กฎหมายและการปฏิบัติตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติอย่างเคร่งครัด เน้นกวดขันตามหลัก “4 ห้าม 2 ต้อง” คือ 1.ห้ามขับรถเร็ว 2.ห้ามดื่มแล้วขับ 3.ห้ามโทรแล้วขับ 4.ง่วงห้ามขับ และ 2 ต้อง คือ 1.ต้องสวมหมวกกันน็อก 2.ต้องคาดเข็มนิรภัยทุกครั้งที่เดินทาง รวมถึงเพิ่มการเรียกตรวจรถโดยสารสาธารณะทั้งประจำทางและไม่ประจำทาง รถตู้ ควบคู่กับการป้องปรามและตักเตือนรถกระบะที่บรรทุกผู้โดยสารท้ายกระบะในลักษณะที่เป็นอันตราย
