"ศิธา" ประกาศเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ชาวกรุง

2022-04-03 09:46:07

 "ศิธา" ประกาศเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ชาวกรุง

Advertisement

"หญิงหน่อย"ควง "ศิธา" เดินสวนลุมพินีฟังเสียงผู้ใช้บริการ ประกาศเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ชาวกรุง 

เมื่อเวลา 07.00น. วันที่ 3 เม.ย.65  ที่สวนลุมพินี คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. หมายเลข 11 พร้อมด้วย ดร.เมลิสา มหาพล ผู้สมัคร ส.ก. หมายเลข 4 เขตปทุมวัน พรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่ พบปะพี่น้องประชาชนที่มาออกกำลังกาย และพักผ่อนหย่อนใจในช่วงเช้าที่สวนลุมพินี  พร้อมสอบถามถึงภาพรวม ของภูมิทัศน์และพื้นที่ทางกายภาพต่างๆภายในสวนลุมพินี ทั้งงานก่อสร้างทางจักรยาน งานก่อสร้างอาคาร งานปรับปรุงอาคาร และการปรับปรุงสะพานข้ามคูน้ำภายในสวน รวมถึงระบบไฟฟ้าส่องสว่างต่างๆ และการฟื้นฟูสภาพต้นไม้ขนาดใหญ่ ว่ามีส่วนใดหรือพื้นที่ใด ภายในสวนลุมพินีที่ต้องปรับปรุงแก้ไข หรือไม่ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่สีเขียวแห่งนี้อย่างคุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งหลายคนสะท้อนความคิดเห็นว่า สภาพแวดล้อมภายในสวนสาธารณะแห่งนี้ ถือว่าได้มาตรฐาน และได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง แต่สวนสาธารณะที่ได้มาตรฐานเช่นนี้ ยังมีไม่เพียงพอต่อความต้องการของพี่น้องชาว กทม. หากเป็นไปได้ ต้องการเห็นพื้นที่สีเขียว โดยเฉพาะสวนสาธารณะที่ได้มาตรฐานและสามารถใช้ประโยชน์ได้จริง สามารถรองรับพี่น้องประชาชนได้อย่างเพียงพอ

ทั้งนี้จากความต้องการดังกล่าว น.ต.ศิธา ระบุว่า พรรคไทยสร้างไทย มีนโยบายเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้คนกรุงเทพฯสามารถใช้งานได้จริง โดยภายใน 4 ปี จะเพิ่มพื้นที่สีเขียวที่ประชาชนสามารถเข้าถึงและใช้ได้ โดยตั้งเป้าหมายไว้ที่ 9 ตารางเมตรต่อคน ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO และโครงการต่างๆของกรุงเทพฯต้องเป็นโครงการสีเขียว เช่นตึกรักษ์โลก หลังคาเขียว ถนนเขียว และสวนคนเมือง


น.ต.ศิธา กล่าวอีกว่า พื้นที่สีเขียวในรูปแบบสวนสาธารณะ และสวนหย่อม มีรวมกันมากกว่า 7,610 แห่ง คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 22,098 ไร่ โดยอัตราพื้นที่สีเขียวต่อประชากรเฉลี่ย 6.97 ตารางเมตรต่อคน แต่สภาพความเป็นจริงพบว่าพื้นที่สีเขียวที่ประชาชนสามารถใช้งานได้จริง มีเพียง0.92 ตารางเมตรต่อคน ซึ่งถือว่าไม่เพียงพอต่อความต้องการ ดังนั้นพรรคไทยสร้างไทยจึงมีแนวคิด ที่จะเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้เป็นไปตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก โดยนำที่รกร้างว่างเปล่า หรือที่ของเอกชน ที่ยังไม่ได้มีโครงการหรือแนวคิดจะพัฒนาที่ดิน มาใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยเข้าไปเจรจากับเอกชน เพื่อเช่าที่ดินในระยะยาวและนำมาต่อยอดพัฒนาเป็นสวนสาธารณะเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้คน กทม.ได้ใช้งาน

"เราเคยนำพื้นที่รกร้างว่างเปล่าในเขตสนามบิน มาทำเป็นสนามจักรยาน ทำสวนพักผ่อนหย่อนใจ ทำพื้นที่สันนทนาการให้กับพี่น้องประชาชนรอบสนามบินสุวรรณภูมิมาแล้ว ในปีหนึ่งมีคนมาใช้บริการเกินล้านครั้ง และได้พัฒนามาจนถึงปัจจุบัน กลายเป็นสนามจักรยานที่ดีอันดับต้นๆของโลกในส่วนของ กทม. พื้นที่ที่จะนำมาใช้ เริ่มจากพื้นที่ในส่วนรับผิดชอบของ กทม.เอง พื้นที่ของหน่วยงานราชการอื่นๆ พื้นที่ของรัฐวิสาหกิจ และพื้นที่ของเอกชน ซึ่งในปัจจุบันพื้นที่ของเอกชนจะต้องเสียภาษีสำหรับที่ดินที่ยังไม่ได้นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เอกชนจึงใช้วิธีปลูกพืชเพื่อสำแดงว่าเป็นพื้นที่เกษตรกรรม เราจะเสนอให้ปรับแก้กฎหมายโดยสามารถนำพื้นที่มาใช้เพื่อสาธารณะประโยชน์โดยนำมาลดหย่อนภาษีได้เช่นกันกลับ" น.ต.ศิธา กล่าว