รมว.มหาดไทยเปิดศูนย์ 7 วันตรายเทศกาลปีใหม่ 2561 ระหว่าง 28 ธ.ค.2560-3 ม.ค.2561 เน้นบังคับใช้กฎหมาย ไม่ตั้งเป้าอุบัติเหตุ ขอประชาชนยึด หลัก 4 ห้าม 2 ต้อง ได้แก่ ห้ามเร็ว ห้ามเมา ห้ามโทร ห้ามง่วง ต้องสวมหมวกนิรภัย และต้องคาดเข็มขัดนิรภัย
เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ในฐานะประธานกรรมการ และ ผอ.ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 โดยระบุว่า นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำให้ประชาชนเดินทางอย่างระมัดระวัง และมอบหมาย ศปถ. ทำงานบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างเต็มกำลัง โดยรณรงค์ “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” ระหว่างวันที่ 28 ธ.ค.2560 - 3 ม.ค. 2561 ลดปัจจัยเสี่ยงทั้งด้านคน รถ ถนน สิ่งแวดล้อม โดยบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด คุมเข้มพฤติกรรมเสี่ยง อาทิ ขับรถเร็ว เมาแล้วขับ ไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย เพิ่มความเข้มงวดในการจัดตั้งจุดตรวจด่านชุมชน จุดสกัดและจุดบริการทั้งเส้นทางสายหลัก และสายรอง ควบคู่กับการบริหารจัดการจราจร เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเวลาเดินทาง
รมว.มหาดไทย กล่าวต่อว่า ช่วงต้นจะเน้นดูแลถนนสายหลักที่ออกสู่ภูมิภาคต่างๆ ช่วงกลางจะเน้นดูแลถนนสายรอง เส้นทางมุ่งสู่แหล่งท่องเที่ยว และเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างตำบล หมู่บ้าน ส่วนช่วงท้ายจะเน้นดูแลถนนสายหลัก ที่มุ่งสู่ กทม.และจังหวัดใหญ่ในภูมิภาค รวมถึงตรวจสอบสภาพความปลอดภัยของรถโดยสารสาธารณะ ความพร้อมของพนักงานขับรถ และเฝ้าระวังจุดเสี่ยง อาทิ จุดตัดทางรถไฟ จุดกลับรถ ทางร่วม ทางแยก พื้นที่ก่อสร้าง ไฟส่องสว่าง และยังจะมีมาตรการยึดรถเหมือนเดิม
พล.อ.อนุพงษ์ ยืนยันว่า ตำรวจมีความพร้อมในการเตรียมกล้องตรวจจับความเร็วทั่วทุกพื้นที่เท่าที่มี แต่ยอมรับว่า ขณะนี้ยังมีจำนวนไม่เพียงพอต่อความต้องการ คาดว่าจะต้องมีการจัดซื้อเพิ่มเติมในอนาคต นอกจากนี้ ยังดูแลความปลอดภัยของเส้นทางสัญจรทางน้ำ เรือโดยสาร ท่าเทียบเรือ และความพร้อมของอุปกรณ์นิรภัย ตลอดจนเตรียมพร้อมระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน เพื่อแจ้งเหตุ และส่งต่อผู้บาดเจ็บให้เป็นไปตามความรวดเร็ว และครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ จึงขอความร่วมมือผู้ใช้รถใช้ถนนปฏิบัติตามหลัก 4 ห้าม 2 ต้อง ได้แก่ ห้ามเร็ว ห้ามเมา ห้ามโทร ห้ามง่วง ต้องสวมหมวกนิรภัย และต้องคาดเข็มขัดนิรภัย
“ปีนี้ไม่ได้มีการตั้งเป้าลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เนื่องจากหลักการดังกล่าวไม่เป็นที่ยอมรับของมาตรฐานสากล แต่จะตั้งเป้าไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ อย่างไรก็ตามในช่วงเทศกาลปีใหม่ เป็นช่วงเวลาที่ดี เป็นมงคลต่อชีวิต จึงอยากให้ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมที่ดี เช่น การเข้าวัด สวดมนต์ข้ามปี งดการดื่มสุรา”พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว