คลังแจงของขวัญปีใหม่ 2561

2017-12-27 11:50:39

คลังแจงของขวัญปีใหม่ 2561

Advertisement

กระทรวงการคลังแถลงของขวัญปีใหม่ปี 2561 ธอส.-ออมสิน คืนกำไรลูกค้าประวัติดี พร้อมสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยถูก ผ่อนนานให้ผู้มีรายได้น้อย  ขยายระยะเวลายกเว้นภาษีเงินได้แก่ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมรายใหม่

เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง พร้อมคณะแถลงว่า ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบโครงการของขวัญปีใหม่ปี 2561 ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน ได้แก่ โครงการเพื่อส่งเสริมวินัยทางการเงินให้แก่ประชาชน โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เพื่อส่งเสริมวินัยทางการเงินของลูกค้า ธอส. ผู้มีรายได้น้อย โดย ธอส. จะจ่ายเงินจำนวน 1,000 บาท ให้กับลูกค้ารายย่อยที่มีการชำระเงินงวดของเดือนธ.ค.ปี 60 ตรงตามกำหนด รวมถึงต้องมีประวัติผ่อนชำระหนี้ดีย้อนหลังตลอด 48 เดือน และไม่เคยเป็นเอ็นพีแอล และมีวงเงินกู้รวมกู้ทุกบัญชีภายใต้หลักประกันเดียวกันไม่เกิน 1 ล้านบาท คาดว่าจะมีคุณสมบัติที่จะได้รับของขวัญประมาณ 165,107 ราย และโครงการชำระดีมีคืนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดย ธ.ก.ส. จะคืนดอกเบี้ยให้แก่ลูกค้าร้อยละ 30 ของจำนวนดอกเบี้ยที่ชำระในช่วงวันที่ 1 ม.ค. - 31 ธ.ค. 2561 สำหรับลูกค้าที่มีต้นเงินคงเป็นหนี้ ณ วันที่ 30 พ.ย. 2560 ไม่เกิน 3 แสนบาท คาดว่าจะมีผู้ได้รับสิทธิ์เป็นเกษตรกรจำนวน 2.3 ล้านราย

น.ส.กุลยา ส่วนอีกโครงการคือ โครงการสนับสนุนให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดย ธอส. จัดทำโครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สำหรับผู้ได้รับสิทธิ์ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้มีรายได้น้อยทั่วไป และบุคลากรภาครัฐ ซึ่งมีอัตราผ่อนปรนและมีระยะเวลากู้ยืมสูงสุดถึง 40 ปี และยกเว้นค่าธรรมเนียมตามที่ธนาคารกำหนด ระยะเวลายื่นคำขอกู้ไม่เกิน 28 ธ.ค.2561 รวมทั้งสิ้น 3 โครงการ ประกอบด้วย โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ วงเงินโครงการรวม 30,000 ล้านบาท สูงสุดต่อรายไม่เกิน 2 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4 ปีแรก ร้อยละ 2.75 ต่อปี, โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (บุคลากรภาครัฐ) วงเงินโครงการรวม 30,000 ล้านบาท ไม่จำกัดวงเงินสูงสุดต่อราย อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4 ปีแรกร้อยละ MRR -3.75 ต่อปี และ โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ วงเงินโครงการรวม 1,000 ล้านบาท สูงสุดต่อรายไม่เกิน 1 ล้านบาทสำหรับผู้ได้รับสิทธิ์สวัสดิการแห่งรัฐ และไม่เกิน 2 ล้านบาท สำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อยและบุคลากรภาครัฐ อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5 ปีแรก ร้อยละ 2.50 ต่อปี




นอกจากนี้ ครม. ยังเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการให้สิทธิ์ประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้แก่ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมรายใหม่ โดยจากเดิมยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับกำไรสุทธิ 5 รอบบัญชีของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จดทะเบียนขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 31 ธ.ค. 2560 โดยได้ขยายระยะเวลาการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเพื่อให้ได้รับสิทธิ์ประโยชน์ออกไปอีก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 31 ธ.ค. 2561 ขณะเดียวกันยังเห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวและการจัดอบรมสัมมนาในจังหวัดท่องเที่ยวรองโดยให้สิทธิ์ประโยชน์ทางภาษีใน 2 ส่วน ได้แก่ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สามารถนำรายจ่ายที่จัดอบรมสัมมนาในจังหวัดท่องเที่ยวรองสามารถหักรายจ่ายได้ 2 เท่าสำหรับรายจ่ายที่เป็นค่าห้องสัมมนา หรือ รายจ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการอบรมสัมมนาดังกล่าว อีกส่วนคือ บุคคลธรรมดาสามารถนำรายจ่ายในการท่องเที่ยว มาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรม ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาท ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายที่พัก โรงแรม ในจังหวัดท่องเที่ยวรอง ค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าบริการที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรอง และ ค่าใช้จ่ายค่าบริการที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรองร่วมกับจังหวัดที่ไม่ใช่จังหวัดท่องเที่ยวรอง ตามเส้นทางที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ทั้ง 2 ส่วนจะต้องใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 31 ธ.ค. 2561