ทีมงานสวมบทโจร !! "คิวเท โอปป้า" เข้าแจ้งความจับ "ตากล้อง" แล้ว

2022-03-15 16:30:39

ทีมงานสวมบทโจร !! "คิวเท โอปป้า" เข้าแจ้งความจับ "ตากล้อง" แล้ว

Advertisement

ทีมงานสวมบทโจร !! "คิวเท โอปป้า" เข้าแจ้งความจับ "ตากล้อง" แล้ว ช้ำหนักคนใกล้ตัวหักหลัง ทั้งขโมยแบรนด์เนม - ขโมยเงิน 



"คิวเท ซิม" หรือ "คิวเท โอปป้า" ยูทูบเบอร์ชื่อดังชาวเกาหลี ช้ำหนัก เจอทีมงาน 4 คนหักหลัง หลังเรียกร้องปรับขึ้นเงินเดือน ต้องการเวลา วันหยุด แถมแอบนินทา หมิ่นประมาท ก่อความแตกแยก เจอหนึ่งในทีมงานเป็นโจรขโมยเงิน ขนแบรนด์เนม และทรัพย์สินในบ้านมูลค่าเหยียบแสน รุดแจ้งความเจ้าหน้าที่ฯ รวบตัวทันควัน




เมื่อวันที่ 14 มี.ค. "คิวเท ซิม" หรือ "คิวเท โอปป้า" ยูทูบเบอร์ชื่อดังชาวเกาหลี ที่มีผู้ติดตาม 7.68 ล้านคน และเจ้าของบริษัทผลิตคอนเทนต์ป้อนสื่อโซเชียลฯ ได้โพสต์วิดีโอคลิปให้ชื่อว่า "ทีมงานผมเป็นโจรครับ...และเขาก็อยู่กับผมมาตลอด 3 ปี" โดยเจ้าตัวเล่าว่า 

"ขอเล่าเฉพาะเรื่องที่มีหลักฐานเท่านั้น เมื่อเดือน ธ.ค. 2564 ทีมงาน 4 คนเรียกให้เข้ามาคุย ทุกคนกล่าวว่า "พวกเราจะลาออก" ทีแรกคิดว่าถ่ายคลิปแกล้ง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือถูกทุกคนด่าประมาณ 2 ชั่วโมง โดยเลขาฯ กล่าวว่า "อยากได้เงินเดือนเพิ่ม" ถ้าไม่ได้ตามนี้จะลาออก บางคนอยากได้เวลาพักผ่อนเยอะขึ้น บางคนบอกว่าไม่สนุกก็ขอลาออก ถ้าไม่ได้ตามที่ต้องการ ซึ่งตัวเองก็ตกใจมากๆ และได้ขอโทษทีมงานทุกคนกว่าร้อยครั้ง แต่สุดท้ายทีมงานทั้ง 4 คนหายไปวับเดียว ทำให้ที่ผ่านมาลงคลิปน้อยมากเพราะทำไม่ไหว เหมือนต้องเริ่มจากศูนย์ใหม่" ...





"และวันที่ทำให้รู้สึกแย่เป็นล้านๆ เท่าคือวันหนึ่งรู้สึกอยากขึ้นไปข้างบนที่ห้องทีมงาน จึงเดินขึ้นไป ปรากฏว่าเจอข้อมูลบางอย่างที่ไม่เคยรู้มาก่อน โดยพบว่าทีมงานคุยนินทากันคุยใส่ร้ายกันเพื่อที่จะคิดคำพูดแย่ๆ ที่ทำให้รู้สึกเสียใจเพื่อที่จะขอสิ่งที่พวกเขาต้องการ คือ เงินเดือน เวลา วันหยุด ทั้งที่ทุกคนบอกชอบผม รักเป็นครอบครัว แต่พบว่าพวกเขาวางแผนมาก่อน ทั้งๆ ที่ผมกล่าวชื่นชมทีมงานมาตลอดว่าเยี่ยมที่สุด เก่งที่สุด ไม่เคยพูดอะไรไม่ดีหรือด้านลบถึงทีมงาน ที่ทีมงานกล่าวว่าขอเงินเพิ่มเพราะว่าให้น้อยหรือไม่ ผมมั่นใจว่าให้เยอะกว่าที่อื่น เพราะคิดว่าทุกคนคือครอบครัว เช่น คนตัดต่ออายุยังไม่ถึง 20 ปี จบการศึกษาแค่ ป.6 ตัดต่อไม่เป็น ใช้โปรแกรมแทบไม่เป็น แต่อยากทำงานกับผม จึงรับเข้ามาทำงาน สอนการตัดต่อทุกอย่าง และให้เงินเดือน 30,000 บาท"





"ต่อมาผมทราบว่า ทีมงานหนึ่งในนั้นที่อยู่ด้วยกันมา 3 ปี เป็นโจรขโมยของแบรนด์เนมมูลค่าหลักแสนบาท เอาไปขายในเว็บแบรนด์เนมมือสอง ที่ผ่านมาในชีวิตของหายทั้งเงิน เสื้อผ้า สิ่งของต่างๆ หายเป็นช่วงๆ ไม่ได้คิดว่ามีใครขโมย คิดว่าหายเอง ที่แย่มากคือ มีทีมงานไปนินทาว่าร้าย ใส่ร้าย สร้างเรื่องหมิ่นประมาทกับคนรอบตัวให้เกลียดผม สร้างเรื่องให้ทีมแตกแยก..."



"ส่วนเลขาฯ เอาข้อมูลบริษัทไปแชร์ ที่ผ่านมาไม่เคยทำงานที่ไหนมาก่อน เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยที่เพิ่งจบใหม่ ที่รับเข้ามาเพราะเห็นความจริงใจในตัวเขา อ้างว่าทำอะไรได้หลายอย่าง แต่พอเข้ามาจริงก็ทำไม่ค่อยได้ ไม่มีประสบการณ์ ถามว่าอยากทำงานที่นี่หรือไม่ก็ตอบว่าอยากทำงานที่นี่ เลยรับเข้ามา แม้จะพลาดเรื่องงานลูกค้า เสียหายหลักแสนก็ให้กำลังใจ แม้กระทั่งวัคซีนที่หายากในขณะนั้นก็พยายามติดต่อเพื่อจัดหามาให้"





"กระทั่งเอกภาณุ ยูทูบเบอร์ดังยอมสละสิทธิ์ให้เลขาฯ ผม แต่กลับไม่นึกถึงบุญคุณ นินทาเอกภาณุ นอกจากนี้ยังจัดหาอุปกรณ์ทำงาน เช่น ไอแพด และให้ไปเรียนขับรถโดยที่ไม่ต้องเสียเงิน ให้รถยนต์มูลค่าหลักล้านบาทไปใช้ เมื่อนำรถไปชนก็ไม่เคยพูดด่าหรือพูดไม่ดี แต่เป็นห่วงเขา อยากให้มีความสุขในการทำงานที่นี่"



"ส่วนทีมงานเก่าที่เคยลาออกไปทำช่องยูทูบเอง ผมก็ให้โอกาสเปิดช่อง ช่วยปั้นช่องขึ้นมาใหม่ รายได้ที่เกิดจากช่องไม่เก็บสักบาท และดีใจที่เขาประสบความสำเร็จด้วยกัน แม้จะอินกับช่องจนไม่ได้ทำงานหลักให้เหมือนเดิม งานคุณภาพไม่เหมือนเดิม แต่ไม่เป็นไร เห็นว่าพัฒนาก็ดีใจ ตอนออกไปทำช่องคนเดียวผมให้คอมพิวเตอร์แมคบุ๊กมูลค่าหลักแสนบาทเพราะไม่มีคอมพิวเตอร์ตัดต่อ โดยไม่เก็บเงินสักบาท กลับมานินทาผใ และเอกภาณุ โดยใช้ถ้อยคำรุนแรงแบบไม่เชื่อว่าเป็นอย่างนั้นจริง"





"ที่ผ่านมาสวัสดิการที่นี่บอกกับทีมงานทุกคนว่าอยากกินอะไรสั่งเลย ไม่เคยห้าม ค่าเดินทาง รถยนต์เพื่อเดินทาง และทุกอย่างผมให้เบิก บางเดือนค่ากินหลักแสนบาทไม่ว่ากัน ขอแค่ทุกคนมีความสุข เงินเดือนโบนัสก็ให้ครบไม่เคยหัก ไม่ว่าจะทำพลาด ทำเงินหาย ทำโปรเจกต์หาย ก็ไม่เคยลดเงินเดือน เพราะเข้าใจในสิ่งที่ทำพลาดและให้อภัย ไม่เข้าใจว่าทำไมทีมงานถึงคุยสนุกปาก ทำไมไม่พูดตรงๆ มีอะไรก็คุยกันตรงๆ แก้ไขกันได้ ไม่ใช่ว่าเงียบแล้วไปคุยกันเอง"



"หลังๆ มีดรามาว่าตนจ่ายเงินให้เด็กนั่งดริงก์ 2 แสนบาท ซึ่งไม่ใช่เรื่องจริง ก็เอาไปคุยกันสนุกปาก ผมเสียใจมาก แต่ก็มีทีมงานคนหนึ่งให้ข้อมูลและสำนึกผิด แม้เขาเป็นหนึ่งในนั้นแต่ผมให้อภัยแล้ว ทั้งหมดจะดำเนินการตามกฎหมายพร้อมหลักฐาน ตั้งแต่เรื่องหลักทรัพย์ถึงเรื่องหมิ่นประมาท สุดท้ายไม่อยากให้พูดถึงเรื่องนี้อีก อยากให้ช่องยูทูบไปต่ออย่างมีคุณภาพ มีแฟนคลับ 7.6 ล้านคน อยากให้ช่วยกัน จะทำอะไรสนุกๆ ให้คนดูต่อไป ส่วนทีมงานที่ทำเรื่องแย่ๆ ผมจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด"



อย่างไรก็ตาม "คิวเท โอปป้า" ได้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีทีมงานเก่า ที่ สภ.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เนื่องจากพบหลักฐานว่าตากล้องขโมยทรัพย์สิน ได้แก่ เงินสด ของแบรนด์เนม และของมีค่าต่างๆ ในบ้าน รวมมูลค่าความเสียหายหลายแสนบาท ซึ่งล่าสุดสามารถรวบรวมหลักฐานและตามจับกุมทีมงานคนดังกล่าวได้แล้ว