"ทนายรณณรงค์"บุกยื่นหนังสือประธานผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้ตรวจสอบการใช้อำนาจของ จนท.คดี "แตงโม" เหตุใดตรวจสารเสพติดคนบนเรือสปีดโบ๊ทได้เพียง 3 คน อีก 2 คนตรวจไม่ได้
เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ กทม. ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เรื่อง ขอให้ตรวจสอบการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่ในคดีของ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ "แตงโม" โดยมีนายวทัญญู ทิพยมณฑา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นผู้รับหนังสือ
สำหรับหนังสือที่ยื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ระบุว่า ปัจจุบันการคสี่คลายคดีการเสียชีวิตอย่างมีปริศนาของ น.ส.ภัทรธิตา ทัชรวีระพงษ์ หรือ "แตงโม" ได้รับความสนใจจากชาวไทยและชาวต่างประเทศซึ่งสร้างความสั่นสะเทือนในกระบวนการยุติธรรมต้นน้ำของประเทศไทย ซึ่งการปฏิบัติงานใด ๆ ของเจ้าหน้าที่รัฐไม่ควรทำให้ประชาชนตั้งคำถามโดยเฉพาะประเด็นการตรวจหาสารเสพติดในคดีที่คนทั้งประเทศและต่งประเทศ ให้ความสนใจในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยว่าจะสามารถสร้างความกระจ่างในการคลี่คลายคดีได้แค่ไหน
ประเด็นที่ทาง "เครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม" กำลังจับตาดูมิใช่กระแสสังคมตามที่สื่อมวลชนนำเสนอ หากแต่เป็นคำถามที่หลายคนตั้งคำถามนับแต่วันแรกที่เกิดเหตุขึ้นคือประเต็นเรื่องสิทธิในการปฏิเสธการตรวจหาสารเสพติดในร่างกายว่าผู้ต้องสงสัยทั้ง 5 ราย ซึ่งมี 2 คนที่เจ้าหน้าที่รัฐไม่สามารถตรวจสอบได้ทั้งที่เป็นประเด็นสำคัญในคดีความ การเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาของ น.ศ.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม ซึ่งเรื่องนี้เป็นประเด็นการบังคับใช้กฎหมายประมวลยาเสพติด จึงเกิดคำถามว่าเจ้าหน้าที่รัฐได้ใช้ดุลยพินิจที่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 27 แล้วหรือไม่ หรือใช้แล้วแต่ประมวลยาเสพติด หรือ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด มีข้อกฎหมายที่เปิดช่องให้เจ้าหน้าที่รัฐเลือกปฏิบัติได้ต่อบุคคลหนึ่งบุคคลใดได้ จึงขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบประเด็นการบังคับใช้กฎหมายการตรวจสารเสพติดดังต่อไปนี้ 1.ตำรวจในคดีดังกล่าว ใช้ดุลยพินิจการตรวจหาสารเสพติดตามกฎหมายใด หรือไม่ 2.เหตุที่ประจักษ์พยาน 5 คนบนเรือตรวจได้เพียง 3 คนเพราะเหตุใด อ้างสิทธิปฏิเสธการตรวจตามหลักกฎหมายใด การตรวจสอบของผู้ตรวจการแผ่นดินดังกล่าวไม่เป็นการก้าวล่วงอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวนในคดีอาญา แต่เป็นการใช้อำนาจตรวจสอบการบังคับใช้กฎหมายและหาช่องว่างทางกฎหมายเพื่อเสนอแนวทางแก้ไขในอนาคต และหากการตรวจสอบพบว่ามีการใช้ดุลยพินิจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายขอให้ทางผู้ตรวจการแผ่นดินส่งเรื่องต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
ด้านนายวทัญญู กล่าวว่า เนื่องจากเรื่องดังกล่าวอยู่ในความสนใจของสังคม จะรีบดำเนินการนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการพิจารณาตามขอบเขตภารกิจอำนาจ หน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดินต่อไป