รมช.คมนาคม สั่งการ "กรมเจ้าท่า" เร่งค้นหาผู้สูญหาย ดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุเพลิงไหม้เรือสมูธซี 2
เมื่อวันที่ 9 มี.ค. นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ กรณีเกิดเพลิงไหม้เรือบรรทุกสินค้าสมูธซี 2 ของบริษัท ไอ อาร์ พี ซี จำกัด ซึ่งขณะนี้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว พร้อมทั้งสั่งการให้กรมเจ้าท่า (จท.) เร่งค้นหาผู้สูญหายและดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยมี นายสมพงษ์ จิรศิริเลิศ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านปฏิบัติการ ร่วมลงพื้นที่ ณ บริษัท ไอ อาร์ พี ซี จำกัด ถนนสุขสวัสดิ์ ต.บางครุ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
นายอธิรัฐ กล่าวว่า กรมเจ้าท่าโดยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการได้รับแจ้งจาก บริษัท ไอ อาร์ พี ซี จำกัด ว่า วันนี้ (9 มีนาคม 2565) เวลาประมาณ 09.00 น. ได้เกิดเพลิงไหม้บนเรือบรรทุกน้ำมันสมูธซี 2 ซึ่งจอดอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหน้าท่าเรือ บริษัท ไอ อาร์ พี ซี จำกัด ถนนสุขสวัสดิ์ ตำบลบางครุ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ จึงได้สั่งการให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการนำเรือตรวจการณ์เจ้าท่า 222 ออกตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้น เบื้องต้นพบว่า เรือสมูธซี 2 หมายเลขทะเบียนเรือ 460003012 ขนาด 1,989 ตันกรอส เป็นเรือประเภทบรรทุกน้ำมันที่มีจุดวาบไฟต่ำกว่า 60 องศาเซลเซียส สัญชาติไทย โดยมี นายปารเมศ ประเสริฐวงศ์ เป็นนายเรือ แจ้งออกจาก จ.ระยอง เมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2565 และเข้าเทียบท่าเรือ 13 บริษัท ไอ อาร์ พี ซี จำกัด เวลา 20.00 น. ขณะเทียบท่ามีสินค้าน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์ 91 จำนวน 1.8 ล้านลิตร และน้ำมันดีเซล จำนวน 1.3 ล้านลิตร ต่อมาเวลาประมาณ 09.00 น. ได้เกิดเพลิงไหม้บนเรือลำดังกล่าว ซึ่งขณะเกิดเหตุบนเรือไม่มีสินค้า เบื้องต้นพบผู้บาดเจ็บ 3 ราย ได้นำส่งโรงพยาบาลบางปะกอก 3 และผู้สูญหาย 1 ราย คือ นายศรรกฏิยพงศ์ สงวนพันธุ์ ขณะนี้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว จากการตรวจสอบไม่พบคราบน้ำมันรั่วไหลลงแม่น้ำเจ้าพระยา
ทั้งนี้ รมช.คมนาคมได้ประชุมร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และได้สั่งการให้ระดมเจ้าหน้าที่กู้ภัยและทีมนักประดาน้ำ เพื่อเร่งค้นหาผู้สูญหาย รวมทั้งดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บ บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยของเรือที่เกิดเหตุ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่เป็นสำคัญ เร่งตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้และความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับวางแผนการป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นในครั้งต่อไป โดยให้รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานให้ทราบอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเปิดศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ เพื่อเป็นช่องทางสำหรับให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ สามารถแจ้งขอรับความช่วยเหลือได้ทันท่วงที ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าของสถานการณ์กรมเจ้าท่าจะรายงานให้ทราบต่อไป
