ทนายความพร้อมญาติ "แตงโม" โร่พบ กมธ.วุฒิสภา ขอคำปรึกษาคดี หวังชันสูตรศพรอบ 2 ด้าน "หมอพรทิพย์" ยันไม่มีอำนาจผ่าศพ เว้นได้รับเชิญเป็นที่ปรึกษา จ่อเชิญหน่วยงานเกี่ยวข้องแจง กมธ.
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 7 มี.ค. ที่รัฐสภา นายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ทนายความของนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาของ "แตงโม" นิดา หรือ ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ พร้อมด้วย น.ส. ภานุชฎา ศิระยุทธโยธิน ญาติของแตงโม เดินทางเข้าพบ นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ส.ว. ในฐานะ กมธ. และอดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์
นายกฤษณะ กล่าวว่า สืบเนื่องจากการเสียชีวิตของแตงโม ยังมีประเด็นที่น่าสงสัย จึงมาขอคำปรึกษาจากพญ.คุณหญิงพรทิพย์ เรื่องของการพิสูจน์หลักฐานต่างๆ รวมถึงการขอคำแนะนำการขอชันสูตรศพรอบ 2 ซึ่งวันนี้เป็นการปรึกษาเบื้องต้น และในวันพรุ่งนี้ (8 มี.ค.) จะมีการยื่นเอกสารที่ถูกต้องต่อ กมธ. อีกครั้ง โดยจะกลับไปปรึกษานางภนิดาในประเด็นต่างๆก่อน
ขณะที่ นายสมชาย กล่าวว่า เบื้องต้นเป็นการหารือระหว่างทนาย ญาติ และ กมธ. โดยทนายได้ต่อสายให้ตนพูดคุยกับนางภนิดา เพื่อยืนยันว่า เป็นทนายที่ได้รับการแต่งตั้งจริง ส่วนรายละเอียดการหารือยังไม่สามารถบอกได้ แต่ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ บทบาทหน้าที่ของ กมธ.ได้ให้ข้อแนะนำเรื่องการตรวจสอบต่างๆ ที่จะต้องถูกต้อง และไม่เป็นปัญหาในอนาคต รวมถึงการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงต่อ กมธ.ได้
ด้าน พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ได้ให้คำแนะนำทนายและญาติ ไปคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อตนจะได้ช่วยเป็นตัวกลางในการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ และช่วยเชื่อมต่อเรื่องข้อมูลให้ ซึ่งเชื่อว่าจะอธิบายให้เข้าใจได้ และในฐานะที่ตนเป็นกมธ. ได้อธิบายคร่าวๆว่าอะไรที่เขาควรจะติดตามเพื่อประโยชน์ความจริงแห่งคดี โดยหลังจากนี้ค่อยสรุปว่าจะชันสูตรหรือไม่ชันสูตรรอบ 2 หรือไม่อย่างไร สำคัญที่สุดทุกคนทราบดีว่าการดำเนินการทุกอย่างเพื่อแตงโม จึงไม่อยากให้แบ่งฝ่ายกันเยอะ แต่อยากให้ร่วมกันทำงานเพื่อความเรียบร้อยสมบูรณ์ของคดี
พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้เป็นปัญหาเชิงระบบงาน ถึงเวลาแล้วที่จะต้องทำให้สังคมได้ทราบสิทธิที่จะรับรู้ของเหยื่อ กรณีนี้แตงโมเป็นเหยื่อ ฉะนั้น ญาติของแตงโมต้องรู้ และเข้าถึงซึ่งข้อมูลซึ่งไม่ใช่ความลับในคดี เพราะเขาไม่ได้อยากรู้หลักฐาน แต่เขาอยากรู้ความจริงในคดี เนื่องจากญาติเข้าไม่ถึงข้อมูลในส่วนนี้ ทำให้เกิดการขอผ่าศพครั้งที่ 2 สิ่งนี้เป็นหลักสากลของสหประชาติ ที่ระบุว่า เหยื่อมีสิทธิที่จะรับรู้ และได้รับการเยียวยา แต่ในส่วนนี้ยังไม่มีในกฎหมายไทย ตนจึงอยากผลักดันเรื่องสิทธิที่จะรับรู้ของเหยื่อด้วย เพราะทุกอย่างมีการอ้างว่าเป็นความลับในคดี แต่ปรากฎออกตามสื่อแทบทั้งหมด ซึ่งเป็นเรื่องแปลก ปกติเวลาตนทำงานจะให้ญาติดูผ่าศพ และหลังผ่าศพอธิบายว่าเจออะไรบ้าง เอาหลักฐานรายงานให้ไปเลย หากญาติสงสัยอะไรถามได้ เพราะเป็นสิทธิของคนตาย นิติเวชมีหน้าที่พูดแทนคนตาย แต่กลายเป็นวัฒนธรรมว่าข้อมูลเหล่านี้ต้องไปถามจากตำรวจ ทำให้ญาติไม่รู้หรือไม่รู้จริงทั้งหมด
พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวด้วยว่า เรื่องการจะเข้าไปมีส่วนร่วมในการผ่าชันสูตรศพ ตนไม่มีอำนาจ ซึ่งส.ว.ไม่สามารถไปเกี่ยวข้องได้ แต่สามารถเข้าไปมีส่วนร่วม หากเชิญไปเป็นที่ปรึกษา ทั้งนี้ เห็นว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากการที่ญาติไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลการตายทั้งหมดจากการชันสูตร ทั้งที่เป็นสิทธิที่พึงจะทราบ หากได้ข้อมูลการตรวจพิสูจน์ทุกอย่างก็จะจบ ไม่จำเป็นต้องนำไปสู่การผ่าชันสูตรครั้งที่ 2 ซึ่งข้อมูลทั้งหมดควรจะต้องมีความกระจ่างตั้งแต่การผ่าชันสูตรครั้งแรก ส่วนกรณีที่ศพของแตงโมจมน้ำมาแล้ว การผ่าชันสูตรศพนั้นก็ถือว่าไม่ยาก เมื่อถามว่า ในส่วนการชันสูตรพลิกศพสามารถระบุได้ชัดเจนเลยหรือไม่ ว่าก่อนเสียชีวิตผู้ตายเจออะไรมาบ้าง พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ระบุว่า บอกได้พอสมควร แต่ที่เกิดเหตุก็สำคัญ
ด้าน น.ส.ภานุชฎา กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณ กมธ. และพญ.คุณหญิงพรทิพย์ เกี่ยวกับเรื่องของแตงโม เพราะเชื่อว่าทุกคนมีจุดมุ่งหมายเดียวกันที่อยากจะให้คดีคลี่คลายและกระจ่างชัดมากที่สุด ดังนั้น หลังจากนี้ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้อง