กมธ.ดีอีเอส ถกหลายหน่วยงานหาทางแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แนะ "คลัง" หางบพัฒนาซอฟแวร์ ให้การบ้านกลับไปคิดภายในเดือน มี.ค.ประชุมอีกรอบ
เมื่อวันที่ 1 มี.ค. น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ส.ส.สระบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) กล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา กมธ.ดีอีเอส ได้มีการพิจารณษแนวทางในการแก้ปัญหาและวิธีการช่วยเหลือประชาชนจากอาชญากรรมทางไซเบอร์ของกลุ่มมิจฉาชีพในรูปแบบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ใช้โทรศัพท์หรือแอปพลิเคชันไลน์ไปหลอกลวงประชาชน โดยได้เชิญ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อน คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และตัวแทนผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ มาร่วมหารือแนวทางและการช่วยเหลือ ซึ่งเรื่องนี้ กมธ. เป็นห่วงมาก เพราะมีประชาชนเดือนร้อนจะแก๊งนี้เป็นจำนวนมาก โดยแพร่ระบาดไปทั่วประเทศ ซึ่งก็ต้องขอแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวัง
นายสยาม หัตถสงเคราะห์ ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธาน กมธ.ดีอีเอส กล่าวว่า กมธ.ดีอีเอสตระหนักในเรื่องนี้มาก และได้มีการตั้งอนุกมธ.เพื่อติดตาม โดยมีตนเป็นประธานและได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือก่อนหน้านี้ไปแล้ว ส่วนการประชุมกมธ.สัปดาห์ที่ผ่านมา ทางกมธ.ได้หารือกับหน่วยงานต่างๆ ในการเร่งรัดอย่างเป็นระบบ โดยขอความร่วมมือกับทาง กสทช. ให้เร่งคุยกับทางผู้ให้บริการเครือข่าย หากมีหมายเลขโทรศัพท์ที่โทรเข้ามาจากต่างประเทศ ให้มีเครื่องหมายดอกจันนำหน้าหมายเลข เพื่อให้ประชาชนรู้ โดยทางผู้ให้บริการกำลังเร่งจัดทำให้เร็วที่สุด นอกจากนี้เรายังขอให้ กสทช. หรือกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จัดทำ แอปพลิเคชั่น เพื่อช่วยเช็คหมายเลขโทรศัพท์ น่าจะช่วยประชาชนได้มากขึ้น
"วันนี้ภัยไซเบอร์ใกล้ตัวมากขึ้น กระทรวงการคลัง อาจจะต้องสนับสนุนงบประมาณในการลงทุนเรื่องการพัฒนาซอฟแวร์ต่างๆ เพราะเป็นการป้องกันให้กับประชาชน เพราะขณะนี้ผมทราบว่ามีชาวต่างชาติเช่าสำนักงานทำงานอย่างเป็นทางการแถวบริเวณสามเหลี่ยมทองคำและประเทศกัมพูชา และผมก็เคยหารือกับ รมว.ดีอี ไปบ้างแล้ว ซึ่งการประชุมกมธ.ดีอีเอส ในครั้งนรี้ เราได้ให้การบ้านกับทุกหน่วยงานไปช่วยกันคิดหาวิธีการ โดยภายในเดือน มี.ค.เราจะเชิญมาพูดคุยกันอีกครั้งเพื่อหาข้อสรุป"นายสยาม กล่าว