หลังจากตัดสินใจพาน้องเรซซิ่งลูกชายคนเดียวของดาราสาว"แพท - ณปภา ตันตระกูล" ไปเยี่ยม "เบนซ์ เรซซิ่ง" คุณพ่อในเรือนจำในวันพ่อแห่งชาติที่ผ่านมา ล่าสุดเจอสาวแพทในงานเปิดแคมเปญ "ใช้ชีวิตยกกำลัง 3" ณ สกายวอล์ค นราธิวาส-ตัดสาทร (บีทีเอส ช่องนนทรี) เลยสอบถามถึงบรรยากาศวันนั้นว่าเป็นอย่างไรบ้าง
หลังจากที่พาน้องเรซซิ่งไปเยี่ยมคุณพ่อมาเป็นยังไงบ้าง?
จริงๆ เหมือนมันเป็นสิ่งที่เรากลัวกันไปเองมากกว่าค่ะ ทั้งทางตันแม่พี่เบนซ์ และพี่เบนซ์เขาเองก็ยังไม่พร้อม แพทก็เลยตัดสินใจพาลูกไปเจอเขาวันพ่ออะเนอะและเขาก็ไม่ได้เจอหน้าลูกมาสักพักแล้ว รวมเวลาที่ห่างกันเกือบๆ 7 เดือน แต่จริงๆเราก็ได้เจอกันนอกรอบตอนที่เขามาขึ้นศาล แต่มันก็นานอยู่ดีค่ะ เราก็คิดว่าวันพ่อถือเป็นโอกาสที่ดีก็เลยอุ้มเข้าไปเลยค่ะโดยที่ไม่ปรึกษาใครค่ะ
บรรยากาศเป็นไรอย่างไรบ้าง?
เขาไม่ได้เตรียมตัวนะ เขาก็ตกใจ อ้าวพาลูกมาเหรอ เขาก็ชมลูกว่าหล่อ ลูกเราน่ารักนะ ถามว่าลูกดื้อไหมไม่สบายหรือเปล่า แล้วปีใหม่จะพาลูกไปเที่ยวไหน และล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาแพทก็พาลูกไปเจอเขาอีก แพทรู้สึกว่าวันแรกที่เราพาลูกไปเจอเขาเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นที่ดี ซึ่งปฏิกิริยาเขาไม่ได้แย่ เลยตั้งใจว่าหลังจากนี้ถ้าแพททำได้พี่เบนซ์จะได้เห็นหน้าลูกทุกอาทิตย์ถ้าเราทำได้นะคะ
เจอหน้าลูกครั้งแรกเขาร้องไห้ด้วย?
ใช่ๆ อย่างเมื่อวันพฤหัสเขาก็ร้องไห้ เราเข้าใจเขานะ ในระหว่างที่ลูกดุ๊กๆๆเล่นกับคนนั้นคนนี้ ทุกคนมีโอกาสได้อุ้ม แต่ทำไมเขาถึงอุ้มลูกไม่ได้ เขาก็อยากอุ้มลูกบ้างเราก็บอกเขาอดทนหน่อย และตรงนั้นมีโทรศัพท์เราก็ให้เขายกหูคุยกับลูกเยอะๆ เพราะตอนนี้เขาก็ได้ยินแล้ว เวลาพูดเขาก็ฟัง พยายามเล่น หยอกล้อ โบกมือบ๊ายบาย น้องเขาก็ให้ความสนใจ
ช่วงที่เราเห็นเบนซ์ร้องไห้เรารู้สึกอย่างไร?
สงสารอ่ะ เราเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงบอกเราก่อนหน้านี้ว่าเขายังไม่พร้อม พอเราเห็นภาพตรงนั้นเราเข้าใจเลยว่าคุณอยากอุ้มอยากสัมผัสลูก แต่ทำไม่ได้เลย แต่มันคือกำลังใจสำหรับเขาและกลับกลายเป็นว่าเขาอยากเจอลูกทุกอาทิตย์ อยากเห็นหน้า เขาอยากรู้ว่าตอนนี้พัฒนาการของลูกเขาไปถึงไหน ดื้อหรือเปล่า ถ้าแพทว่างทุกวันพฤหัสบดีก็จะพาลูกไปหาเขา
ตอนน้องเรซซิ่งเห็นพ่อเขาทำยังไงบ้าง?
ดูจากพัฒนาการแล้วเขายังไม่ได้อินอะไรขนาดนั้น อีกอย่างที่แพทบอกตลอดเลยคือเด็กเขาต้องการความรัก ความใกล้ชิดด้วยวัยตอนนี้ อย่างใครเลี้ยงเขาแล้วหายไปเป็นอาทิตย์พอกลับมาก็เขาก็ไม่สนิทเหมือนตอนแรกๆ ถ้าให้บอกลูก แต่ในที่นี้เราสามารถบอกลูกได้ว่านี่คือพ่อนะ แต่ลึกๆก็ต้องใช้ความใกล้ชิดอยู่ดีค่ะ
เราแอบเสียดายเวลาไหมที่ไม่พาลูกไปหาเบนซ์ตั้งแต่แรก?
ไม่เลย แพทว่ามันเป็นจังหวะที่ดี เพราะตอนนี้เขาเริ่มเรียนรู้ เริ่มรู้อะไรเยอะเลยค่ะ ตอนนี้เขา 10 เดือนกว่า อีก 2 เดือนจะครบขวบหนึ่งแล้ว และแพทว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่พ่อก็ต้องเจอหน้าลูกบ้าง จะได้รู้ว่าหน้าลูกคุณเนี่ยเปลี่ยนไปขนาดไหน รวมถึงเรซซิ่งเองก็จะได้ไม่รู้สึกว่าแม่พามาที่ไหน พามาทำไม และเขาจะได้เข้าใจว่าเราพาเขามาทุกอาทิตย์อยู่แล้ว พอวันหนึ่งเขาเริ่มเรียกแม่ได้ เขาเริ่มรู้จัก ก็จะเข้าใจว่าไม่ใช่เรื่องแปลกและภาพที่คุณเห็นอยู่ทุกอาทิตย์ คนที่คุยด้วยก็คือพ่อคุณไง มันจะได้ไม่แปลกค่ะ
ก่อนหน้านี้เราเคยบอกเขาว่าถ้ายังไม่พร้อมมาเจอหน้าลูกก็ไม่น่าจะมาเป็นพ่อ?
คือใจจริงๆแพทพูดกับเขาไปแหละว่าแพทอยากให้เขาเข้มแข็ง เหมือนว่าแบบเราเป็นพ่อคนอ่ะ สิ่งหนึ่งที่แพท อยากให้เขามีที่สุดก็คือความเข้มแข็ง แพทรู้ว่ามันเป็นเรื่องเปราะบางและเป็นเรื่องเซนซิทีฟสำหรับใจคน แต่สุดท้ายแล้วแพทก็อยากให้เขารู้สึกว่าเราเองเราเป็นแม่นะ เราเป็นผู้หญิงเรายังเข้มแข็งเลย การที่เราเลี้ยงลูกคนเดียวอยู่ข้างนอก โอเคเรายอมรับว่ามันสบายกว่าคนอยู่ข้างในอยู่แล้วแหละ แต่เราก็รับภาระทั้งหมดเลย เรายังต้องผ่านมันไปให้ได้เลย เราอยากให้เขามองอีกมุมหนึ่งว่าให้ลูกเป็นกำลังใจ อยากให้เขาได้เห็นลูกแล้วเขารู้สึกว่านี่แหละรู้จุดหมายว่าเขาจะสู้เพื่ออะไร อยู่เพื่อใคร
หลายคนมองว่าคำพูดเรารุนแรงเกินไป?
จริงๆ แพทเป็นคนตรงๆ และแพทก็พูดกับสามีแพทแบบนี้ แพทก็พูดไปคือถ้าทำตรงนี้ไม่ได้ก็ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว เราไม่อยากให้ใครหรือครอบครัวปกป้องในเรื่องที่ไม่จำเป็น เราไม่อยากให้ใครคิดแทนเขาว่าอย่าเพิ่งเอาลูกเข้าไปเลย น้ำตามันมีทุกคนอยู่แล้ว แต่เรายังไม่รู้เลยว่ามันเป็นน้ำตาแห่งความดีใจหรือเสียใจ เราให้มันเผชิญกับสิ่งที่ควรเป็นดีกว่า
แล้วเรารู้สึกว่าเบนซ์เขาเข้มแข็งหรือมีกำลังใจมากขึ้น?
แพทรู้สึกได้ว่าเขาเข้มแข็งมากขึ้น และพอเขาเจอลูกแพทรู้เลยว่าเขามีกำลังใจและเขารู้ว่าต้องสู้เพื่ออะไรค่ะ
