"ทวี" อภิปรายปม "เขากระโดง" จ.บุรีรัมย์ แฉ รฟท. ดอดฟ้องศาลปกครอง ทั้งที่สามารถฟ้องร้องต่อศาลยุติธรรมได้
เมื่อวันที่ 17 ก.พ. ที่รัฐสภา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ อภิปรายตอนหนึ่งว่า กรณีที่ดินการรถไฟแห่งประเทศ ไทย (รฟท.)เมื่อวันที่ 22 เม.ย.64 มีคำสั่งศาลฎีกา ที่ 2205/2564 คดีที่ รฟท.ฟ้องเอกชนที่มีที่ดินในบริเวณเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ต่อมาปี 65 จำเลยที่แพ้คดีในศาลชั้นต้นและชั้นอุทธรณ์ 4 ราย ได้ยื่นต่อศาลฎีกา ซึ่งศาลฎีกาวินิจฉัยว่าไม่รับฎีกา จึงต้องมีการบังคับคดี ดังนั้น รฟท.ขอหมายศาลแล้วส่งไปยังกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ให้บังคับคดีกับเจ้าของโฉนดที่ดินบริเวณถนนประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เรื่องนี้เป็นกรณีที่ รฟท.ฟ้องประชาชน ซึ่งประชาชนแพ้คดี จึงสรุปว่าที่ดิน 5,083 ไร่ เป็นที่ดินของ รฟท. อีกทั้งเป็นที่ดินที่ไม่มีใครคนใดคนหนึ่งเข้าไปอยู่ได้ ปลายเดือน ธ.ค.64 ผู้ว่า รฟท.ตัดสินใจยื่นฟ้องต่อศาลปกครองให้ดำเนินการกับกรมที่ดินและอธิบดีกรมที่ดิน เพื่อให้ฟ้องขับไล่ ทั้งที่จริงสามารถฟ้องร้องต่อศาลยุติธรรม ซึ่งการไปยื่นฟ้องร้องต่อศาลปกครองเป็นเพราะที่ดินตรงนั้นมี รมว.คมนาคม และเครือญาติ สนามฟุตบอล ทำให้ผู้ว่า รฟท.ไม่กล้าฟ้องร้อง ทั้งที่ถึงเวลาแล้วที่ต้องยึดการทำเพื่อความถูกต้องและประโยชน์ส่วนรวม
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ส่วนการตัดสินใจไปฟ้องกรมที่ดินและอธิบดีกรมที่ดิน โดยเรียกค่าเสียหาย 700 ล้านบาทนั้น เงินดังกล่าวที่กรมที่ดินจะต้องจ่ายเป็นเงินของประชาชน แต่ถ้าคดีนี้มีการฟ้องต่อศาลยุติธรรม ผู้ที่จ่ายค่าเสียหาย คือผู้ครอบครองที่ดิน และ รฟท. มีหนี้จำนวนมาก ถ้าได้ค่าเสียหายจากตรงนี้ ปีหนึ่งได้ 10,000 กว่าล้านบาท ทั้งนี้ หนึ่งในคุณสมบัติสำคัญของผู้นำ คือต้องมีความซื่อสัตย์ ดังนั้น นายกฯ ต้องประกาศว่าเป็นคนซื่อสัตย์ และต้องมารักษาการตำแหน่ง รมว.คมนาคม สำหรับปัญหาที่ดินที่เกิดขึ้นในประเทศไทย นายกฯ ทวงคืนผืนป่าด้วยการให้เจ้าหน้าที่ไปจับแล้วเพิ่มพื้นที่ป่า ซึ่งนายกฯ บอกได้ที่ดินคืนมาเกือบ 2 แสนไร่ แต่การสำรวจจำนวนพื้นที่ป่าทุกปีโดยคณะวนศาสตร์ พบว่าพื้นที่ป่าหายทุกปี ปีละ 1 แสนไร่ การได้พื้นที่ป่าคืนเป็นเพราะรัฐบาลไปรุกสิทธิทวงคืนจากกลุ่มชาติพันธุ์และทวงคืนความเป็นคนจากคนยากจน แต่สิ่งที่นายกฯ ไม่ทำเลยคือการเช่าป่าที่มีเป็นจำนวนมากพอครบกำหนดกลับไม่เอาคืน