สนช.ถกเดือด ยังไม่ได้ข้อสรุป ให้อำนาจป.ป.ช.ดักฟังได้

2017-12-21 21:30:42

สนช.ถกเดือด ยังไม่ได้ข้อสรุป ให้อำนาจป.ป.ช.ดักฟังได้

Advertisement

สนช.ถกเดือดให้อำนาจ ป.ป.ช.ดักฟังได้ หวั่นละเมิดสิทธิ์  ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง ต้องพักประชุมนัดอภิปรายต่อ 22 ธ.ค.เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) มีนายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสนช.คนที่สอง เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต วาระ 2 และ3 ตามที่กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พิจารณาเสร็จแล้ว จำนวน 193 มาตรา

โดยในการอภิปรายวาระ 2 สมาชิก สนช.ได้ขอความชัดเจนตั้งแต่คำปรารภของร่าง พ.ร.ป. ในมาตรา 35 , 36, 37/1 ทั้งนี้ กมธ.เสียงข้างน้อยและสมาชิก สนช.หลายคนอภิปรายท้วงติงอย่างหนักในมาตรา 37/1 เรื่องการให้อำนาจ ป.ป.ช.สืบค้นข้อมูลโดยการดักฟังข้อมูลทางโทรศัพท์และอุปกรณ์อิเลกทรอนิคส์ต่างๆได้ โดยห่วงว่า จะเป็นเครื่องมือทางการเมือง เป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 36 ขอให้ กมธ.ตัดมาตรา 37/1 ทิ้ง

ขณะที่ กมธ.เสียงข้างมาก ระบุว่า ไม่มีเจตนาล่วงละเมิดสิทธิเสรีภาพประชาชน เพราะการจะใช้อำนาจตามมาตรา 37/1 ได้ ต้องผ่านมติเห็นชอบจากคณะกรรมการป.ป.ช.ทั้ง 9 คนก่อนจะขอยื่นอนุมัติต่ออธิบดีศาลทุจริตและประพฤติมิชอบ เพื่อให้ความเห็นชอบด้วย ไม่ใช่แค่ให้ผู้พิพากษาทั่วไปอนุญาต ที่สำคัญ ฐานความผิดที่เข้าข่ายใช้มาตรา 37/1 ได้ ต้องเป็นเรื่องสำคัญมีผลกระทบในวงกว้าง เมื่ออธิบดีศาลฯ อนุญาตแล้ว ป.ป.ช.จะมีเวลาไม่เกินครั้งละ 90 วันใช้อำนาจดังกล่าว ส่วนข้อมูลที่ได้มา จะใช้เฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวกับคดีเท่านั้น ข้อมูลที่ไม่เกี่ยวกับคดีจะถูกทำลายทันที ป.ป.ช.ไม่มีเจตนาจะละเมิดสิทธิประชาชน แต่จะทำทุกทางเพื่อตรวจสอบการทุจริต  เพื่อประโยชน์ทางคดี ใช้เป็นพยานหลักฐานในชั้นศาล จึงจำเป็นต้องให้อำนาจส่วนนี้ โดยมีกฎหมายรองรับอย่างชัดเจน ซึ่งการดักฟังข้อมูลทางโทรศัพท์จะมีขั้นตอนที่รัดกุมไม่ใช่ว่าใครก็ทำได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การอภิปรายในมาตรา 37/1 ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เวลา 11.00 น. กระทั่งเวลา 17.30 น. มาตราดังกล่าวก็ยังไม่ได้ข้อยุติ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. จึงขอพักการประชุม 10 นาที เพื่อหารือนอกรอบ เนื่องจากมีสมาชิกเสนอให้ปิดประชุมในวันนี้ก่อนแล้วมาอภิปรายต่อในวันที่ 22 ธ.ค.

ต่อมาเวลา 17.40 น. การประชุมได้เปิดขึ้นอีกครั้ง โดยนายพรเพชร แจ้งว่าได้เชิญ กมธ.เสียงข้างมากและ กมธ.เสียงข้างน้อยและผู้อภิปรายไปหารือร่วมกัน ปรากฎว่า กมธ.เสียงข้างมาก ยืนกรานไม่ยอมถอนมาตราดังกล่าว ทำให้ยังมีประเด็นที่ กมธ.เสียงข้างน้อยและสมาชิกอภิปรายค้างไว้ และ กมธ.เสียงข้างมากยังไม่ได้ตอบ จึงขอเลื่อนการพิจารณาออกไปเป็นวันที่ 22 ธ.ค.นี้ นัดประชุมเวลา 09.00 น. จากนั้นได้สั่งปิดประชุม