โดนโทร.ต่อว่ารัวๆ 40 สาย "ทิดไพรวัลย์" หอบตัวเองหลบดราม่า เปิดบ้านให้ "นิกกี้ ณฉัตร" ตะลุยถามเคลียร์ทุกประเด็น
เมื่อเจอปัญหาประเดประดังทางเดียวที่จะหลีกพ้นไปให้ได้ คือ หลบไปพักใจพักกายที่บ้าน ที่ที่จะทำให้เราได้อยู่กับคนที่รักเราจริงๆ รักที่ไร้เงื่อนไขใดๆ ซึ่งดราม่าที่เผชิญมาก็ถือว่าหนักหนาอยู่พอสมควร สำหรับ "ไพรวัลย์ วรรณบุตร" หรือ "ทิดเอก" เคยเจอคนโทร.เข้ามากระหน่ำต่อว่าวันละกว่า 40 สาย โดนด่า "มั่นหน้ามั่นโหนก" น้อยใจกับเรื่องราวที่ถาโถมเข้ามา โชคดีมีพระนักเทศน์สอนสั่ง จึงสงสารไม่คิดเอาความกับคนที่ด่า ส่วนคอนโดฯ ย่านรัชดาไม่ได้ซื้อ แค่เช่าไว้อาศัยสะดวกทำงาน เผยไม่มีที่ไหนสบายใจเท่าที่บ้าน
หลังจากสึกมาดูเหมือนว่ากระแสต่อต้านจะมากขึ้นเรื่อยๆ ปัญหาต่างๆ รุมเร้าทำเอาปวดหัวแทบยืนไม่อยู่ ก่อนหน้านี้ก็มีดราม่าลุกออกจากรายการ "นินทาประเทศไทย" หลังประกาศยุติหน้าที่ต่อหน้าพิธีกรร่วมไปแบบงงๆ ซึ่ง "ทิดไพรวัลย์" ก็ดูเหมือนจะสามารถรับกับทุกๆ สถานการณ์ได้ดี แต่มิวายเจอคนตามด่าเช็ด ล่าสุดเจ้าตัวได้เปิดใจและเปิดบ้าน ในช่องยูทูบของ "นิกกี้ ณฉัตร" ในเทปที่มีชื่อว่า เปิดบ้าน "ไพรวัลย์" ครั้งเเรก ที่ จันทบุรี หลัง มีดราม่า l [Nickynachat]

โดยในเทปนี้ "ไพรวัลย์" ได้เคลียร์ดราม่าต่างๆ พร้อมตอบคำถามทุกคำถามที่ "นิกกี้" อยากรู้ ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า
"ที่มาอยู่บ้านที่จันทบุรี ก็มาหลบดราม่าไง มันก็นู่นนี่นั่น ได้โอกาสทบทวนด้วย อะไรด้วย หลายๆ อย่าง ในวันที่รู้สึกแย่ มันก็มีพี่ มีป้า มีหลาน ทำให้เรารู้สึกว่า เราสามารถออกจากตรงนั้นก่อนได้ ครั้งนี้โชคดีที่เรามีพระอาจารย์ที่เรานับถือท่านมาด้วย เราอยากให้ท่านเทศน์สอนเรา"

"เมื่อก่อนมีแต่คนรัก ทำไมไปๆ มาๆ มีแต่คนว่า ส่วนตัวผมมองว่า มันเป็นจุดหนึ่งที่เราต้องเลือกอะไรบางอย่าง ในความที่คนชื่นชอบเยอะ เราไม่สามารถที่จะทำอะไร ตอบสนองความพึงพอใจของคน เราต้องเลือกแล้วว่า เราจะตอบสนองความพึงพอใจของคน หรือเราจะทำอะไรบางอย่างที่รู้ว่าจะขัดใจพวกเขา เป็นตัวของตัวเอง ผมมันก็ดันอินดี้มากไป อยากเป็นตัวของตัวเองให้มันชัด มันทำให้คนที่เราไม่ได้ตอบสนองเขา เขาอยากให้เราคอลเอาต์ แต่เราไม่ทำ เรามันหยิ่ง ไม่เหมือนเดิม"


"ก็เริ่มจะมีกระแสโจมตีเยอะขึ้น ที่รู้สึกน้อยใจ ถ้าพูดเข้าข้างตัวเอง คนลืมสิ่งที่เราทำไปหมดแล้ว คำที่ผมโดนเยอะที่สุดคือคำว่า "มั่นหน้ามั่นโหนก" ผมก็คิดได้ว่าถ้าคนเขาเกลียด ก็ไม่ต้องไปอธิบายหรอก เพราะวิ่งที่พูดหรือพยายามทำ มันจะยิ่งแย่ลงไป ต่อให้เราเป็นคนของสาธารณะ เรายิ่งปกป้องตัวเอง กลายเป็นว่า ในฐานะที่เรามีคนตามเยอะ รังแกคนที่เขาวิพากษ์วิจารณ์เรา เราไม่ได้มองแบบนั้น เพราะถ้าวิจารณ์มันต้องมีเหตุผล ต้องมีความเป็นธรรม แต่มันไม่ใช่การวิจารณ์ หรือบูลลี่ ทุกคนมีจิตใจ บางทีอารมณ์โกรธมันมากไป มันเลยทำให้สารที่จะสื่อมันไม่นุ่มนวล"

"เรื่องดำเนินคดีกับชาวเน็ต จริงๆ ก็มีคนแนะนำผมเหมือนกัน แต่ผมรู้สึกสงสาร ถ้าคนที่เราฟ้องไม่ได้มีสถานะที่พร้อม ไม่ว่าจะเสียค่าปรับหรือสู้คดี มันเหมือนว่าเราไปรังแกเขา พวกดาราเซเลบถึงใช้วิธีการฟ้องเพื่อปกป้องตัวเอง คือถ้าเป็นประเด็นที่เราทำอะไรผิดกฎหมายบ้านเมือง หรือใช้อภิสิทธ์ไปเบียดเบียนใคร เราจะรู้สึกผิดหรืออยากขอโทษสังคม แต่เวลามีประเด็นผมก็พูด แต่เราก็ต้องคิด ไม่ใช่พูดๆๆ"


"คนพูดประเด็นเรื่องเรตราคา ผมไม่รู้นะว่าประเด็นตอนหลังบวช แต่ทุกครั้งที่ผมคุยงาน ผมจะไม่คุยเอง ผมจะให้ทีมงานเป็นคนคุย เพราะเขาทำงานให้เรา เขาก็สามารถคุยได้ เด็กไม่ได้ทำงานฟรีนะ ค่าเรียน ค่าที่พัก ผมเป็นพระ ผมก็ต้องจ่ายนะครับ ถ้าใช้งานผมแล้วผมเป็นพระ ไม่ให้ผมก็ได้ แต่จะไม่ให้ลูกน้องผมเลยเหรอ ทุกครั้งผมเลยให้ลูกศิษย์รับงาน"

"ตอนนี้เรามีความสุขแล้ว เพราะเราได้ชี้แจงดราม่าไปตามความเหมาะสมแล้ว กระแสลงมันมีแน่นอน เหมือนที่บอกผมไม่เคยคิดทำงานในวงการ คอนโดที่อยู่ก็ไม่ได้ซื้อ เรื่องงานในวงการก็มีติดต่อเข้ามา แบบติดต่องานคู่ให้ไปร่วมกับ "สมปอง" ซึ่งเขาไม่เคยทิ้งเรา เวลามีปัญหาโทร. มาตลอด แบบเข้าใจ ให้กำลังใจกัน ถามว่าโกรธไหมมีคนหวังกระแสกับเรา ผมอยู่ที่ความวางใจ ปลอดภัยกับคนที่เราจะคุย ตอนนี้ดราม่าวันหนึ่งประมาณ 30-40 สาย มาหมด ยิ่งอธิบายก็ยิ่งไปกันใหญ่ ในเมื่อเรามีพื้นที่ของตัวเอง เราก็พูดในพื้นที่ของตัวเองให้ชัด"

"ส่วนบ้านดูเหมือนใหญ่แพง แต่มันถูกสร้างในราคาที่มันถูก เพราะพ่อแม่ผมเป็นช่าง ลุงผมเป็นช่าง คนในครอบครัวเป็นคนทำ มันเลยประหยัดได้อีก ก็อยากกลับมาใช้ชีวิตที่นี่ คือกรุงเทพฯมันก็ได้ถ้าทำงาน แต่ผมรู้สึกว่าสภาพแวดล้อม ที่จะทำให้เราฟูใจ มันไม่เท่ากับบ้าน อยู่บ้านตื่นมาได้เห็นบรรยากาศเสียงนกเสียงไก่ ส่วนคอนโดตอนนี้เช่าอยู่รัชดา เพราะไม่ได้ตั้งใจจะอยู่ถาวร"




