ลูกป่วยจิตเวชก่อเหตุยิงพ่อเสียชีวิต ก่อนหลบในบ้านพร้อมอาวุธปืน เจ้าหน้าที่เร่งปิดรอบกล่อมให้มอบตัว
เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 1 ก.พ ร.ต.ท.ภูวนาท หนูพินิจ รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุ ยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บบริเวณบ้านเลขที่ 34 ม.11 ต.บางงอน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี รีบตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.สมบัติ ฉ่ำแสง รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.พุนพิน
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ผู้ได้รับบาดเจ็บทราบชื่อ นายโสภณ แสงสว่าง อายุ 73 ปี ญาติรีบนำส่งรพ.แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนผู้ก่อเหตุคือนายสุริยะ แสงสว่าง อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของผู้ตาย ซึ่งหลังจากก่อเหตุได้เก็บตัวอยู่ในบ้าน พร้อมอาวุธปืนขนาด .38 ที่ใช้ก่อเหตุ และเป็นปืนของนายโสภณ ผู้เสียชีวิต
จากการสอบถาม นายณัฐกิจ หนูแก้ว หลานของผู้เสียชีวิต ทราบว่าก่อนเกิดเหตุได้มานอนที่บ้านเกิดเหตุ และเมื่อเวลาประมาณ 03.00-04.00 น. ขณะที่ตัวเองนอนอยู่อีกห้อง นายสุริยะผู้ก่อเหตุ ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าชาย มีอาการเหมือนโกรธอะไรบางอย่างบริเวณข้างบ้าน ผู้เป็นพ่อจึงออกมาดูพร้อมอาวุธที่พกไว้ ป้องกันตนเอง เนื่องจากลูกอาการไม่ดี และมีปากเสียงกัน ก่อนที่นายสุริยะ จะลงมือทำร้ายผู้เป็นพ่อ และแย่งปืนยิงใส่ผู้ตายตนเองได้ยินเสียงปืน 3 นัด จึงรีบจะออกมาช่วย แต่น้าอีกคนได้ห้ามไว้ เพราะผู้ก่อเหตุมีปืน ก่อนที่จะช่วยกันพาคนเจ็บส่ง รพ.และเสียชีวิตในเวลาต่อ
นายกรวิทย์ แสงสว่าง อายุ 23 ปี ลูกคนเล็กของผู้ตาย ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพ่อประมาณ 500 เมตร ให้ข้อมูลว่า นายสุริยะพี่ชายที่ก่อเหตุ ได้รับการรักษาทางจิตเวชที่ รพ.สวนสราญรมย์ มาประมาณ 4 ปี แต่ไม่ค่อยกินยา โดยปกติก็จะคอยเฝ้าระวังพี่ชายตลอด ก่อนเกิดเหตุก็มีอาการคุ้มคลั่งเป็นระยะในช่วง 3 วันที่ผ่านมา และญาติทุกคนก็ช่วยกันเฝ้าระวังอย่างเต็มที่แต่ก็มาก่อเหตุร้ายดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.สมบัติ กล่าวว่า หลังก่อเหตุคนร้ายได้เข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้าน จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดล้อมบ้านที่ผู้ก่อเหตุหลบอยู่ภายใน พร้อมใช้โดรนบินตรวจสอบว่าผู้ก่อเหตุอยู่จุดใด ซึ่งคาดว่าน่าจะอยู่บริเวณชั้นล่าง พร้อมประสานนักจิตวิทยา ir"สวนสราณรมย์ มาช่วยเจรจาเนื้องจากเป็นผู้ป่วยจิตเวช ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังปิดล้อมบ้านเกิดเหตุเพื่อเจรจาให้ผู้ก่อเหตุออกมามอบตัวต่อไป