ผู้บริหารบีทีเอสยืนยันข่าวปรับขึ้นราคาค่าโดยสารหลังใช้บัตรแมงมุมไม่เป็นความจริง เผยรถไฟฟ้าขบวนใหม่ขบวนแรกจะเข้ามาประมาณเดือน พ.ค. 2561
เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด ( มหาชน ) ชี้แจงกรณีตามที่มีข่าวระบุว่า บริษัทจ่อขึ้นราคาค่าโดยสารหลังเปิดใช้ระบบตั๋วร่วม หรือบัตรแมงมุมเพื่อเชื่อมกับระบบขนส่งมวลชนอื่นโดยใช้บัตรเพียงใบเดียวนั้น ไม่มีมูลความจริงแต่ประการใด พร้อมย้ำให้ความร่วมมือกับรัฐในการจัดทำตั๋วร่วมเต็มที่ เพราะได้ร่วมมือกับทางภาครัฐมาตั้งแต่ต้นและเป็นรายแรกในการเซ็นเอ็มโอยู หรือบันทึกความร่วมมือกับรัฐบาลเพื่อทำระบบตั๋วร่วม ซึ่งบริษัทได้พยายามในการที่จะให้ตั๋วร่วมนี้สามารถใช้ร่วมกับบัตร Rabbit ได้ และในอนาคต เมื่อมีส่วนต่อขยายออกไปหลายสายในอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งถ้าเป็นสายสีเขียวด้วยกันจะไม่มีค่าแรกเข้า ส่วนสายสีอื่นๆจะมีค่าแรกเข้า ตรงนี้บริษัทพร้อมที่จะหารือร่วมกับทุกฝ่ายและทางภาครัฐเรื่องค่าแรกเข้าเพื่อให้เกิดความพอดี และ ประชาชนไม่เดือดร้อน
นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการปรับค่าโดยสารที่เรียกเก็บสำหรับรถไฟฟ้าบีทีเอสในส่วนของเส้นทางสัมปทานระยะทาง 23.5 กิโลเมตร สายสุขุมวิท และสายสีลม บริษัทได้มีการปรับราคาค่าโดยสารครั้งล่าสุดที่ผ่านมาเมื่อเดือน ต.ค. 2560 ซึ่งสัญญาสัมปทานกำหนดให้บริษัทสามารถปรับค่าโดยสารที่เรียกเก็บได้ทุก 18 เดือนแต่ต้องไม่เกินเพดานอัตราค่าโดยสาร ดังนั้นจึงขอให้ผู้ใช้บริการวางใจได้ว่าบริษัทจะยังไม่มีการเรียกเก็บหรือปรับราคาค่าโดยสารในขณะนี้แต่อย่างใด ส่วนการจัดทำตั๋วร่วมของรัฐบาลไม่มีผลกับการปรับขึ้นค่าโดยสารบีทีเอสเพราะเป็นเรื่องของอนาคต ที่รัฐบาลจะพิจารณาร่วมกับเอกชนผู้ให้บริการทุกราย บริษัทยินดีให้ความร่วมมือในการจัดทำตั๋วร่วมมาตั้งแต่ต้นไม่ว่าเอกชนรายใดจะถอนตัวออกไป บริษัทก็ยังคงร่วมงานกับรัฐ โดยเฉพาะระบบบัตรบัตรแมงมุมที่พัฒนาระบบเปิดไว้ให้บัตรโดยสารของผู้ให้บริการทุกรายสามารถเชื่อมต่อกับบัตรแมงมุมได้โดยง่าย ไม่ใช่เฉพาะของบีทีเอสเพียงรายเดียว
นายสุรพงษ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับรถไฟฟ้าขบวนใหม่ที่ได้ลงนามสั่งซื้อไปเมื่อเดือน พ.ค.2559 จำนวน 46 ขบวน 148 ตู้มูลค่ารวม 11,000 ล้านบาทกับ บริษัทซีเมนส์ จำกัด 22 ขบวน จะทยอยเข้ามาในปี 2561 และบริษัทฉางชุน เรลเวย์ เวฮิเคิล จำกัด 24 ขบวน จะทยอยมาถึงเมืองไทยจนครบ ในปี 2562 โดยขบวนแรก จะเข้ามาประมาณเดือน พ.ค. 2561 เพื่อจะมาทดสอบระบบต่างๆ ทั้งนี้เพื่อรองรับปริมาณผู้โดยสารที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยสถิติสูงสุดของผู้โดยสารเมื่อวันที่ 3 พ.ย.2560 ที่ผ่านมา มีจำนวน 918,109 เที่ยวคนซึ่งเป็นสถิติใหม่ล่าสุด