"ทิพานัน"ชู "บิ๊กตู่"ทำงานจริงฟื้นสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ

2022-01-26 18:36:28

"ทิพานัน"ชู "บิ๊กตู่"ทำงานจริงฟื้นสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ

Advertisement


"ทิพานัน"ชู "บิ๊กตู่"ทำงานจริงฟื้นสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯวอน "หมอชลน่าน" เลิกด้อยค่าเพราะเสียหน้าที่ยุค "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์"ทำไม่ได้

เมื่อวันที่ 26 ม.ค. น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมททอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)   กล่าวชื่นชมผลสำเร็จของการเดินทางไปเยือนประเทศซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบียกลับมาเป็นปกติอย่างเป็นรูปธรรม  โดยเร็วๆนี้จะมีการแต่งตั้งเอกอัคราชทูตประจำเมืองหลวงของทั้งสองประเทศ และกลไกในการหารือเพื่อส่งเสริมความร่วมมือในระดับทวิภาคี  พร้อมพัฒนาความสัมพันธ์ในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว โดยเฉพาะทางซาอุดีอาระเบียมีโครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนา ทั้งในด้านการบริหารจัดการการท่องเที่ยว และด้านแรงงานจำนวนมาก  และยังต้องการจัดหางานฝีมือดีอีก 8 ล้านคนจึงเป็นโอกาสของไทยที่จะได้มีส่วนร่วมนอกจากนี้ยังมีความร่วมมือด้านต่างๆในอนาคต ทั้งด้านพลังงานทดแทน สิ่งแวดล้อม ความมั่นคงทางไซเบอร์ รวมทั้งการแลกเปลี่ยนระหว่างศาสนาอีกด้วย

ส่วนที่นพ.ชลน่าน ศรีแกล้ว ผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวหาว่าต่างประเทศไม่ยอมรับ และไม่มีความเชื่อมั่นประเทศไทย โดยระบุว่าการฟื้นสัมพันธ์กับประเทศซาอุดีอาระเบียเพราะซาอุฯต้องการเปิดประเทศอยู่แล้วนั้น น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า เข้าใจดีว่าเป็นกลยุทธในทางการเมือง เพื่อหวังด้อยค่าผลงานของนายกรัฐมนตรี เพราะอาจจะรู้สึกเสียหน้า ที่รัฐบาลยุคทักษิณ ชินวัตร และรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ทำไม่ได้ ทั้งที่อดีตนายกรัฐมนตรีมักจะอ้างว่ามีคอนเน็กชั่นกับหลายประเทศ แต่จริงๆในช่วงเวลาที่บริหารประเทศ ก็มีเวลาพอที่จะรื้อฟื้นความสัมพันธ์ แต่เพราะอาจไม่ได้ให้ความสำคัญหรือติดตามเรื่องนี้อย่างที่ควรจะเป็น จนมาถึงรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจ แม้รู้ว่ายากแต่ก็พยายามทำจนสำเร็จอย่างไรก็ตาม กว่าจะมาถึงวันนี้ต้องยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย  แต่เป็นผลของความพยายามทุ่มเทตั้งใจของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ภายใต้การเอาใจใส่และติดตามอย่างใกล้ชิดของนายกรัฐมนตรี ที่ทำงานจริง ผลักดันเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 6 ปี โดยเริ่มต้นจากวงหารือ 3 ฝ่าย ในระหว่างประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือเอเชีย (เอซีดี) เมื่อปี 2559  ทุกอย่างมีที่มาที่ไป ไม่ใช่ดีแต่พูดเพื่อสร้างกระแสไปวันๆ เพราะภาพประวัติศาสตร์นี้ ไม่ใช่เกิดขึ้นอย่างปุบปับกระทันหัน แต่มีที่มาที่ไปอย่างละเอียดอ่อน ที่น่าผิดหวัง คือการประดิษฐ์วาทกรรม “คนขี่อูฐยังคิดเป็นเลย แต่คนขี่ควายคิดไม่เป็น” ของนพ.ชลน่าน ที่เป็นถึงผู้นำฝ่ายค้าน แต่ไม่หาข้อมูลรอบด้านก่อนวิจารณ์ อย่างไรก็ตามวาทกรรมของนพ.ชลน่าน จึงน่าจะสื่อสารถึงพรรคเพื่อไทยเสียมากกว่า เพราะวันนี้เป็นที่ประจักษ์แล้วว่านายกฯจริงจัง ตั้งใจ ติดตามอย่างละเอียดรอบคอบ และทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง