หนุ่มโร่แจ้งความเอาผิดไปรษณีย์ หลังส่งจิวเวลรี่ราคาแสนห้า แล้วสูญหายระหว่างทาง
เมื่อวันที่20 ธ.ค.60 ที่สภ.ช้างเผือก นายกรวิวัฒน์ โสตถิพันธุ์กุล อายุ 26 ปี นักออกแบบและเจ้าของธุรกิจจิวเวลรี่ใน จ.เชียงใหม่ ได้เดินทางมาแจ้งความกับ พ.ต.ท.พิชิต เสล่า พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีกับไปรษณีย์ หลังจากได้ส่งจิวเวลรี่ทางพัสดุลงทะเบียนอีเอ็มเอส พร้อมซื้อประกันการสูญหายเพิ่มเป็นเงิน 815 บาท แต่ปรากฏว่าพัสดุสูญหายระหว่างการขนส่ง โดยได้มีการนำหลักฐานต่างๆมามอบให้กับพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความดังกล่าว
โดยทางด้าน นายกรวิวัฒน์ ได้เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เริ่มจากเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตนได้นำสินค้า ซึ่งเป็นจิวเวลรี่ที่ออกแบบขึ้นมาเอง ใช้อัญมณีเป็นไพลิน 18 เม็ด รวมน้ำหนัก 5.94 กะรัต และเพชรอีก200 เม็ด น้ำหนักรวม 2.90 กะรัต ส่วนตัวกำไรเป็นทองคำ 95 เปอร์เซนต์ น้ำหนัก 39 กรัม มีมูลค่าประมาณ 150,000 บาท ส่งให้ลูกค้าโดยได้นำสินค้าไปฝากส่งยังที่ทำการไปรษณีย์สาขาตลาดคำเที่ยง ต.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ และเลือกส่งพัสดุแบบลงทะเบียนอีเอ็มเอส พร้อมซื้อประกันเพิ่มอีกเป็นเงิน 815 บาท ซึ่งสินค้าจะต้องส่งถึงมือผู้รับภายในวันที่ 6 ธ.ค. แต่ปรากฏว่าพัสดุกลับไม่ถึงมือผู้รับตามกำหนด

เมื่อสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ปลายทางก็ได้รับคำตอบว่าพัสดุตกค้างระหว่างการขนส่งซึ่งเจ้าหน้าที่รับปากจะติดตามพัสดุให้ โดยตนก็ได้พยายามติดตามพัสดุอยู่นานหลายวัน แต่ก็ไร้วี่แวว จนกระทั่งล่าสุดเมื่อวานนี้ตนได้โทรศัพท์ไปสอบถามอีกครั้งก็ได้รับคำตอบว่าพัสดุสูญหายแล้ว และทางไปรษณีย์พร้อมจะชดใช้ค่าเสียหายให้ตามวงเงินประกันจำนวน 50,000 บาท ตนจึงได้นำหลักฐานมาแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวน

ซึ่งการเข้าแจ้งความครั้งนี้ไม่ได้ต้องการเรียกร้องค่าเสียหายเพิ่มเติม แต่ต้องการได้สินค้าคืนเพราะออกแบบขึ้นมาเอง และในฐานะผู้เสียหายต้องการจะให้ทางไปรษณีย์รับผิดชอบโดยหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฏหมาย เพื่อเป็นแบบอย่างไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะนี้ขึ้นมาอีก เนื่องจากตนเองทำอาชีพนี้มานานและได้ใช้บริการส่งพัสดุทางไปรษณีย์ให้ลูกค้ามานานกว่า 3 ปีแล้วทุกครั้งจะซื้อประกันเพิ่ม ซึ่งตลอดที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาสินค้าสูญหายกระทั่งครั้งนี้ หากตนเองยอมรับเงินประกันเกรงว่าอาจจะเกิดเหตุซ้ำรอยขึ้นมาอีกเพราะคนผิดยังลอยนวลอยู่ และทำให้ตนเองไม่มั่นใจว่าจะส่งสินค้าทางไปรษณีย์ได้อย่างปลอดภัยอีก

ด้านพ.ต.ท.วิชิต กล่าวว่า เบื้องต้นจะสอบปากคำผู้เสียหาย รวมทั้งจะเรียกเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์มาสอบปากคำเพิ่มเติมก่อน เพื่อไล่เรียงและลำดับขั้นตอนวิธีการส่งพัสดุ รวมทั้งเส้นทางในการขนส่ง หากพบว่าพัสดุสูญหายในขั้นตอนใด และใครเกี่ยวข้องก็จะเรียกตัวมาสอบสวนอีกครั้ง หากพบว่าผู้ใดเกี่ยวข้องก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายทันที